บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก ธันวาคม, 2021

ครั้งมีพระชาติเป็นพระเวสสันดร การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติของพระพุทธเจ้า

รูปภาพ
ครั้งมีพระชาติเป็นพระเวสสันดร ๑ ๑. บาลี เวสสันตรจริยา จริยา. ขุ. ๓๓/๕๕๙/๙. ในคัมภีร์จริยาปิฎก ซึ่งเป็นคัมภีร์ชั้นบาลี มิได้เรียงเรื่องเวสสันดร ไว้เป็นเรื่องสุดท้ายแห่งเรื่องทั้งหลาย เหมือนในคัมภีร์ชาดก; ฉะนั้น ในที่นี้ข้าพเจ้า จึงไม่เรียงเรื่องเวสสันดรไว้ เป็นเรื่องสุดท้ายเหมือนที่คนทั้งหลายเชื่อกัน. กระษัตรีย์ใด ได้เป็นมารดาของเรา มีนามว่า ผุสดี กระษัตรีย์นั้น เป็นมเหษีของท้าวสักกะ มาแล้วในอดีตชาติ. ท้าวสักกะผู้จอมเทพ ทราบอายุขัยของพระมเหษีองค์นั้นแล้ว ได้ตรัสกะเธอว่า “เจ้าผู้เลิศงาม เราให้พรแก่เจ้าสิบประการ ตามแต่เจ้าจะเลือกเอา” ๒. ๒. คำพูดเช่นนี้ นัยว่าเป็นประเพณี พูดกับผู้ที่จะต้องจุติจากสวรรค์. พระเทวีนั้น ได้รำพันถามท้าวสักกะว่า “หม่อมฉันมีความผิดอย่างไรหรือหนอ, หม่อมฉันเป็นที่เกลียดชังของพระองค์แล้วหรือ จึงถูกบังคับให้ละโลกอันน่ารื่นรมย์นี้ไป ดุจพฤกษชาติที่ถูกลมพัด ถอนขึ้นทั้งรากฉะนั้น”. ท้าวสักกะ ผู้อันพระเทวีรำพันเช่นนั้นแล้ว ได้ตรัสแก่เธอว่า “ใช่ว่าเจ้าจะทำบาปอันใดลงไป ก็หามิได้ ใช่ว่าเจ้าจะไม่เป็นที...

ครั้งมีพระชาติเป็นพระเจ้ามหาสุทัศน์ การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติของพระพุทธเจ้า

รูปภาพ
ครั้งมีพระชาติเป็นพระเจ้ามหาสุทัศน์ ๑ ๑. บาลี มหาสุทัสสนจริยา จริยา. ขุ. ๓๓/๕๕๔/๔. ในกาลใด, เราเป็นพระเจ้าแผ่นดินในนครชื่อกุสาวดี มีนามว่า มหาสุทัศน์ ผู้เป็นจักรพรรดิมีกำลังมาก. ในกาลนั้น เราจัดให้มีการป่าวร้องในที่ทั่วไป วันละสามครั้ง. ‘ใครปรารถนาอะไร ใครประสงค์สิ่งใด ใครควรได้ทรัพย์เช่นไร, ใครหิว ใครกระวนกระวาย, ใครต้องการมาลา ใครต้องการเครื่องลูบทา. ผ้าย้อมแล้วด้วยสีต่างๆ กัน ใครไร้ผ้าจงนุ่งห่ม. ใครจะเดินทางจงเอาร่มไป, เอารองเท้างามๆ นิ่มๆ ไป’. เราให้ป่าวร้องเช่นนี้ ทั้งเช้าและเย็นทุกๆ แห่ง. ทรัพย์ที่เตรียมไว้สำหรับยาจก ไม่ใช่สิบแห่ง หรือร้อยแห่ง แต่ตั้งหลายร้อยแห่ง. จะเป็นกลางวันหรือกลางคืนก็ตาม ถ้ายาจกมาเมื่อใด เป็นได้สิ่งของตามที่เขาปรารถนา เต็มมือกลับไปเสมอ. เราให้ทานอันใหญ่หลวงเช่นนี้ จนตลอดชีวิต และใช่ว่าจะให้ทานด้วยทรัพย์ ส่วนที่เราเกลียดไม่ชอบ ก็หาไม่ การสะสมทรัพย์จะมีในเรา ก็หาไม่. ผู้ป่วยกระสับกระส่าย ใคร่จะพ้นไปจากโรค ให้ขวัญข้าวแก่หมอจนเป็นที่พอใจแล้ว ย่อมหายจากโรคได้ฉันใด เราก็ฉันนั้น เรามุ่งแต่จะทำให...

ครั้งมีพระชาติเป็นโชติปาลมาณพ การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติของพระพุทธเจ้า

รูปภาพ
ครั้งมีพระชาติเป็นโชติปาลมาณพ ๑ ๑. บาลี ฆฏิการสูตร ม. ม. ๑๓/๓๗๕/๔๐๕. ตรัสแก่พระอานนท์ ที่รุกขมูลแห่งหนึ่ง ระหว่างการเดินทาง ในชนบท แห่งโกศล. อานนท์ ! ความคิดอาจมีแก่เธอว่า ‘ผู้อื่นต่างหาก ที่เป็นโชติปาลมาณพ ในสมัยโน้น’. อานนท์ ! เธอไม่ควรเห็นเช่นนั้น, เรานี่เองได้เป็นโชติปาลมาณพแล้ว ในสมัยนั้น......๒ ๒. เนื้อความท่อนนี้ อยู่ท้ายสูตร นำมาจั่วหน้า, เพื่อให้เข้าใจง่ายว่าตรัสถึงเรื่องในชาติก่อน. อานนท์ ! ครั้งดึกดำบรรพ์ พื้นที่ตรงนี้เป็นนิคมชื่อเวภฬิคะ มั่งคั่งรุ่งเรือง มีคนมากเกลื่อนกล่น. อานนท์ ! พระผู้มีพระภาค นามว่า กัสสปะ ทรงอาศัยอยู่ ณ นิคมเวภฬิคะนี้, ได้ยินว่า อารามของพระองค์ อยู่ตรงนี้เอง, ท่านประทับนั่งกล่าวสอนหมู่สาวก ตรงนี้. อานนท์ ! ในนิคมเวภฬิคะ มีช่างหม้อชื่อฆฏิการะ เป็นอุปัฏฐากอันเลิศ ของพระผู้มีพระภาคกัสสปะนั้น. ฆฏิการะมีสหายรัก ชื่อโชติปาละ. อานนท์ ! ครั้งนั้น ฆฏิการะเรียกโชติปาลมาณพ ผู้สหายมาแล้วกล่าวว่า “เพื่อนโชติปาละ ! มา, เราไปด้วยกัน, เราจักไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าก...