จงใช้ชีวิต ให้เหมือนกับ ผ้าขี้ริ้ว
สวัสดีครับ วันนี้ผมมีข้อคิดเตือนใจ เรื่องของการใช้ชีวิต ให้เหมือนกับ ผ้าขี้ริ้ว มาฝากครับ
ชีวิตของคนเรานั้น มีทั้งโชคดีและโชคร้าย เมื่อประสบพบเจอ ก็ขอให้คิดว่า มันเป็นเรื่องธรรมดา เพราะชีวิตของคนเรานั้น มีขึ้นมีลง วันนี้ผมจึงเอาข้อคิดเตือนใจ จากครูบาอาจารย์ เรื่องของการใช้ชีวิต ให้เหมือนกับ ผ้าขี้ริ้ว มาให้รับชม เผื่อจะเป็นประโยชน์ และเป็นข้อคิดให้กับทุกท่าน เรามาดูกันว่า ผ้าขี้ริ้ว ที่เราใช้อยู่ทุกวันนั้น จะให้ข้อคิดเตือนใจ และสอนอะไร ให้กับเราบ้าง ครับ
๑. ผ้าขี้ริ้ว ยอมสกปรกเพื่อให้สิ่งอื่นสะอาด คือ การที่ยอมลำบาก เพื่อให้ผู้อื่นเป็นสุข พ่อแม่ยอมเหนื่อย เพื่อให้ลูกหลานอยู่สุขสบาย ความสุขแท้ของคน คือการ ได้ยืนแอบยิ้ม อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ
๒. ผ้าขี้ริ้ว ดูดซับความสกปรกได้ แต่ก็สลัดความสกปรก ออกจากตัวได้ตลอดเวลา คือ การที่รู้ตัวเองว่าสกปรก ถึงเวลาต้องชำระล้างแล้ว มิใช่อมความสกปรกไว้ แล้วแกล้งบอกว่าตนเองสะอาด
๓. ผ้าขี้ริ้ว เป็นผ้าที่สะอาดที่สุด ในขณะที่คนมองว่าสกปรกที่สุด คือ การฝึกหัดขัดเกลาตนเอง รู้จักถ่อมตน และอ่อนโยน ไม่โอหังอวดดี ให้เป็นที่รังเกียจหมั่นไส้ของคนอื่น เขาจะเป็นคนที่มีคุณค่า ไม่ว่าจะมาจากสกุลใด การศึกษามาก หรือน้อยก็ตาม เป็นผู้ใฝ่รู้แต่ไม่อวดดี เหมือนผ้าขี้ริ้วห่อทอง
๔. ผ้าขี้ริ้ว ถึงจะเป็นผ้าไม่มีราคา แต่มีคุณค่ายิ่งใหญ่ได้ คือ การที่พยายามทำตนให้มีคุณค่า ด้วยการทำงาน มิใช่ด้วยการประจบ ทำตนให้มีประโยชน์ ให้มีค่า ไม่ใช่งอมืองอเท้า น้อยเนื้อต่ำใจ ในวาสนาชะตาชีวิต ต้องสร้างกำลังใจให้ตนเอง อย่ารอคอยจากคนอื่น
๕. ผ้าขี้ริ้ว ไม่เกี่ยงงอนว่า จะถูกใช้เช็ดถูอะไร คือ การที่ยอมอาสาทำงาน ที่ได้รับมอบหมาย โดยไม่ปริปากบ่น รู้จักอาสาคน อาสาทำงาน ก็ต้องตั้งใจทำงานโดยไม่เกี่ยงงอน ไม่ว่าจะเป็นงานใดๆ ก็ตาม คนที่ตกงาน เพราะไม่ยอมทำงาน
๖. ผ้าขี้ริ้ว ยอมให้ถูกใช้งาน ในที่สกปรกที่สุด การที่เรายอมทำ ในสิ่งที่คนอื่นรังเกียจ ที่เขาเห็นว่า เป็นงานชั้นต่ำ หากตั้งใจทำ ก็เป็นของมีค่าขึ้นมาได้ หรือยินดี ในการบริการ เหมือนคนที่อิ่มเอิบ เมื่อได้บริการรับใช้คนอื่น รับใช้สังคม หรือดีใจ เมื่อมีคนมายินดีมาใช้บริการความรู้ ความสามารถของตน และยินดี ที่ได้เสนอตัว เข้าไปบริการ มากกว่าเข้าไปบริหาร
๗. ผ้าขี้ริ้ว พอใจที่ได้อยู่เบื้องหลังความสะอาด คือ ควรพอใจ ที่ได้อยู่เบื้องหลัง ความสำเร็จของคนอื่น ต้องมีความพอใจ ที่จะทำงานปิดทองหลังพระ เป็นนายอิน หรือนางอิน ผู้ปิดทองหลังพระ มีความสุข และภูมิใจ ที่ได้มอบความสำเร็จให้คนอื่น มีมาก ที่ผู้น้อยบางคน ทำงานแล้ว ทำให้ผู้ใหญ่เล็กลง ขณะที่ตัวเองโตขึ้น
๘. ผ้าขี้ริ้ว ทนทานต่อการขัดถู ซักล้าง ไม่เปราะบาง คือ มีความอดทน ไม่ย่อท้อ ต่ออุปสรรคปัญหา แม้จะเหนื่อยเพียงใด ก็อดทนได้ เพื่อให้สำเร็จ มอบประโยชน์สุข แก่ผู้อื่น มีจิตใจหนักแน่น ไม่เปราะบางหักง่าย คือ ไม่เป็นคนทุกข์ง่าย ใจเบา แต่นิ่ง และหนักแน่น คงดุจแผ่นดิน
๙. ผ้าขี้ริ้ว แม้จะถูกมองว่า เป็นผ้าขี้ริ้ว แต่ไม่ทำตัวให้ขี้เหร่ คือ การที่รู้ตัวเองว่า กำลังถูกปรามาส สบประมาท จะต้องตั้งใจ เอาชนะอุปสรรคตรงนั้น ให้ได้ ไม่พ่ายแพ้ ต่อคำปรามาส ของผู้อื่น รู้ตัวตลอดเวลาว่า กำลังทำอะไร และมีกำลังใจในสิ่งนั้น มองเห็นคุณค่า จากสิ่งที่คนทั้งหลาย มองว่าไร้ค่า เมื่อมีปัญหา ให้หัดมองสองด้านเสมอ ผ้าขี้ริ้ว มีเสน่ห์ เพราะยอ สัมผัส กับสิ่งสกปรก
เป็นยังไงบ้างครับ คุณผู้ชม เรื่องของการใช้ชีวิต ให้เหมือนกับ ผ้าขี้ริ้ว เราต้องทำตัวเอง ให้มีคุณค่า และมองเห็นค่าของตัวเองก่อน แล้วเราจะไม่รู้สึกท้อแท้ หมดหวัง ชีวิตของคนเรา ก็เช่นกัน หากทนความทุกข์ ยากลำบาก ยอมสัมผัสกับงาน ที่ต่ำต้อยได้ ก็จะมีเสน่ห์ และมีความหมาย ทุกคนจึงควรพากเพียรพยายาม สร้างเสน่ห์ให้กับชีวิต อย่างที่ผ้าขี้ริ้ว สร้างเสน่ห์ให้กับตนเอง ครับ
ขออนุโมทนาบุญ และกราบขอบพระคุณครูบาอาจารย์ ทุกท่าน ที่ให้คติธรรม และข้อคิด ในการดำเนินชีวิต และขออนุโมทนาบุญ กับทุกท่านที่มีส่วนร่วม ในการจัดทำคลิบนี้ และรับชมคลิบนี้ สาธุครับ
ชีวิตของคนเรานั้น มีทั้งโชคดีและโชคร้าย เมื่อประสบพบเจอ ก็ขอให้คิดว่า มันเป็นเรื่องธรรมดา เพราะชีวิตของคนเรานั้น มีขึ้นมีลง วันนี้ผมจึงเอาข้อคิดเตือนใจ จากครูบาอาจารย์ เรื่องของการใช้ชีวิต ให้เหมือนกับ ผ้าขี้ริ้ว มาให้รับชม เผื่อจะเป็นประโยชน์ และเป็นข้อคิดให้กับทุกท่าน เรามาดูกันว่า ผ้าขี้ริ้ว ที่เราใช้อยู่ทุกวันนั้น จะให้ข้อคิดเตือนใจ และสอนอะไร ให้กับเราบ้าง ครับ
๑. ผ้าขี้ริ้ว ยอมสกปรกเพื่อให้สิ่งอื่นสะอาด คือ การที่ยอมลำบาก เพื่อให้ผู้อื่นเป็นสุข พ่อแม่ยอมเหนื่อย เพื่อให้ลูกหลานอยู่สุขสบาย ความสุขแท้ของคน คือการ ได้ยืนแอบยิ้ม อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ
๒. ผ้าขี้ริ้ว ดูดซับความสกปรกได้ แต่ก็สลัดความสกปรก ออกจากตัวได้ตลอดเวลา คือ การที่รู้ตัวเองว่าสกปรก ถึงเวลาต้องชำระล้างแล้ว มิใช่อมความสกปรกไว้ แล้วแกล้งบอกว่าตนเองสะอาด
๓. ผ้าขี้ริ้ว เป็นผ้าที่สะอาดที่สุด ในขณะที่คนมองว่าสกปรกที่สุด คือ การฝึกหัดขัดเกลาตนเอง รู้จักถ่อมตน และอ่อนโยน ไม่โอหังอวดดี ให้เป็นที่รังเกียจหมั่นไส้ของคนอื่น เขาจะเป็นคนที่มีคุณค่า ไม่ว่าจะมาจากสกุลใด การศึกษามาก หรือน้อยก็ตาม เป็นผู้ใฝ่รู้แต่ไม่อวดดี เหมือนผ้าขี้ริ้วห่อทอง
๔. ผ้าขี้ริ้ว ถึงจะเป็นผ้าไม่มีราคา แต่มีคุณค่ายิ่งใหญ่ได้ คือ การที่พยายามทำตนให้มีคุณค่า ด้วยการทำงาน มิใช่ด้วยการประจบ ทำตนให้มีประโยชน์ ให้มีค่า ไม่ใช่งอมืองอเท้า น้อยเนื้อต่ำใจ ในวาสนาชะตาชีวิต ต้องสร้างกำลังใจให้ตนเอง อย่ารอคอยจากคนอื่น
๕. ผ้าขี้ริ้ว ไม่เกี่ยงงอนว่า จะถูกใช้เช็ดถูอะไร คือ การที่ยอมอาสาทำงาน ที่ได้รับมอบหมาย โดยไม่ปริปากบ่น รู้จักอาสาคน อาสาทำงาน ก็ต้องตั้งใจทำงานโดยไม่เกี่ยงงอน ไม่ว่าจะเป็นงานใดๆ ก็ตาม คนที่ตกงาน เพราะไม่ยอมทำงาน
๖. ผ้าขี้ริ้ว ยอมให้ถูกใช้งาน ในที่สกปรกที่สุด การที่เรายอมทำ ในสิ่งที่คนอื่นรังเกียจ ที่เขาเห็นว่า เป็นงานชั้นต่ำ หากตั้งใจทำ ก็เป็นของมีค่าขึ้นมาได้ หรือยินดี ในการบริการ เหมือนคนที่อิ่มเอิบ เมื่อได้บริการรับใช้คนอื่น รับใช้สังคม หรือดีใจ เมื่อมีคนมายินดีมาใช้บริการความรู้ ความสามารถของตน และยินดี ที่ได้เสนอตัว เข้าไปบริการ มากกว่าเข้าไปบริหาร
๗. ผ้าขี้ริ้ว พอใจที่ได้อยู่เบื้องหลังความสะอาด คือ ควรพอใจ ที่ได้อยู่เบื้องหลัง ความสำเร็จของคนอื่น ต้องมีความพอใจ ที่จะทำงานปิดทองหลังพระ เป็นนายอิน หรือนางอิน ผู้ปิดทองหลังพระ มีความสุข และภูมิใจ ที่ได้มอบความสำเร็จให้คนอื่น มีมาก ที่ผู้น้อยบางคน ทำงานแล้ว ทำให้ผู้ใหญ่เล็กลง ขณะที่ตัวเองโตขึ้น
๘. ผ้าขี้ริ้ว ทนทานต่อการขัดถู ซักล้าง ไม่เปราะบาง คือ มีความอดทน ไม่ย่อท้อ ต่ออุปสรรคปัญหา แม้จะเหนื่อยเพียงใด ก็อดทนได้ เพื่อให้สำเร็จ มอบประโยชน์สุข แก่ผู้อื่น มีจิตใจหนักแน่น ไม่เปราะบางหักง่าย คือ ไม่เป็นคนทุกข์ง่าย ใจเบา แต่นิ่ง และหนักแน่น คงดุจแผ่นดิน
๙. ผ้าขี้ริ้ว แม้จะถูกมองว่า เป็นผ้าขี้ริ้ว แต่ไม่ทำตัวให้ขี้เหร่ คือ การที่รู้ตัวเองว่า กำลังถูกปรามาส สบประมาท จะต้องตั้งใจ เอาชนะอุปสรรคตรงนั้น ให้ได้ ไม่พ่ายแพ้ ต่อคำปรามาส ของผู้อื่น รู้ตัวตลอดเวลาว่า กำลังทำอะไร และมีกำลังใจในสิ่งนั้น มองเห็นคุณค่า จากสิ่งที่คนทั้งหลาย มองว่าไร้ค่า เมื่อมีปัญหา ให้หัดมองสองด้านเสมอ ผ้าขี้ริ้ว มีเสน่ห์ เพราะยอ สัมผัส กับสิ่งสกปรก
เป็นยังไงบ้างครับ คุณผู้ชม เรื่องของการใช้ชีวิต ให้เหมือนกับ ผ้าขี้ริ้ว เราต้องทำตัวเอง ให้มีคุณค่า และมองเห็นค่าของตัวเองก่อน แล้วเราจะไม่รู้สึกท้อแท้ หมดหวัง ชีวิตของคนเรา ก็เช่นกัน หากทนความทุกข์ ยากลำบาก ยอมสัมผัสกับงาน ที่ต่ำต้อยได้ ก็จะมีเสน่ห์ และมีความหมาย ทุกคนจึงควรพากเพียรพยายาม สร้างเสน่ห์ให้กับชีวิต อย่างที่ผ้าขี้ริ้ว สร้างเสน่ห์ให้กับตนเอง ครับ
ขออนุโมทนาบุญ และกราบขอบพระคุณครูบาอาจารย์ ทุกท่าน ที่ให้คติธรรม และข้อคิด ในการดำเนินชีวิต และขออนุโมทนาบุญ กับทุกท่านที่มีส่วนร่วม ในการจัดทำคลิบนี้ และรับชมคลิบนี้ สาธุครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น