ทำบุญแล้ว ทำไมชีวิตไม่ดีขึ้น เป็นเพราะเหตุใด
สวัสดีครับคุณผู้ชม คลิบนี้มีคติธรรมและข้อคิด
เรื่องของการทำบุญทำทานแล้ว ทำไมชีวิตไม่ดีขึ้น เป็นเพราะเหตุใด มาฝากครับ
หลายๆ ท่าน คงจะมีความสงสัย และเกิดคำถามในใจว่า ทำไมเราทำบุญทำทานแล้ว ทำไมชีวิตถึงไม่ดีขึ้นเลย คลิบนี้ผมจึงเอาคติธรรมและข้อคิด ของครูบาอาจารย์ มาให้รับชม เผื่อจะเป็นประโยชน์ และเป็นข้อคิดให้กับทุกท่าน ในการดำเนินชีวิต เพราะว่า หนึ่งในสถานการณ์ ที่มักจะสร้างความคลางแคลงใจ ให้แก่คน ที่เพิ่งจะหันมาศึกษาธรรมะ รวมไปถึงผู้ที่ศึกษาธรรมะมานานแล้ว แต่ยังไม่มีความหนักแน่นมากพอ ที่จะเชื่อมั่นในคำสั่งสอน ของพระพุทธเจ้า นั้นก็คือ ทำไมทำบุญแล้ว แต่ชีวิตไม่ดีขึ้นเลย เรามาดูกันว่า เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น
มีคนจำนวนไม่น้อยที่ ทำกิจกรรมทางศาสนาหลายอย่าง แล้วคิดว่า การกระทำดังกล่าวได้บุญ แต่ความจริงแล้วบางอย่าง ก็ได้บุญน้อย ได้บุญมาก แต่บางอย่างก็ไม่ได้บุญเลย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ ก็มักจะทำให้ความเชื่อมั่น ในพระพุทธศาสนาของบางคนนั้นสั่นคลอน แล้วก็กลายเป็นคนหลงผิด เพราะเหตุใดการทำบุญ จึงไม่ทำให้ชีวิต ของคนบางคนนั้นดีขึ้น ครูบาอาจารย์ท่านได้ให้ข้อคิดเตือนสติไว้ดังนี้
๑. ทำบาปเอาไว้มาก แต่ก็ยังทำบุญน้อย เราลองคำนวณดูว่า เราเริ่มศึกษาธรรมะ ตอนอายุเท่าไร แล้วลองเปรียบเทียบดูว่า จำนวนปีที่เราได้ทำบาป กับจำนวนปี ที่เราได้ทำบุญนั้น แตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน ยกตัวอย่าง เช่น เราศึกษาธรรมะอย่างจริงจัง ในช่วงอายุ ๓๐ กว่าๆ และต่อมา ก็ได้หยุดทำบาป แล้วหันมาทำบุญ ในช่วงไม่เกิน ๕ ปีหลัง ซึ่งก็แปลว่า ก่อนหน้านั้น เราทำบาปมาแล้ว ประมาณ ๓๐ ปี และเริ่มทำบุญอย่างจริงจัง มาประมาณ ๕ ปี จะเห็นได้ว่า ปริมาณของการทำบาปในชาตินี้ของเรา ยังมีมากกว่า การทำบุญ ฉะนั้น ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ชีวิตของเรา อาจจะยังไม่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในตอนนี้
๒. บุญก็ทำ บาปก็ไม่เลิก มีคนจำนวนไม่น้อย ที่ศึกษาธรรมะ แต่เข้าถึงหลักธรรมเพียงด้านเดียว คือการทำบุญ โดยไม่ได้สนใจในการเลิกทำบาป จึงทำบุญไปด้วย และก็ทำบาปไปด้วย จึงทำให้ชีวิตโดยรวม มีสภาพลุ่มๆ ดอนๆ บางครั้งชีวิตก็ดี เพราะผลบุญที่ทำ บางครั้งชีวิตก็แย่ เพราะผลของบาป ที่เราไม่ได้ลดละ
๓. เข้าใจผิด คิดว่ากำลังทำบุญอยู่ มีคนจำนวนไม่น้อย ที่ทำกิจกรรมทางศาสนาหลายอย่าง แล้วคิดว่า การกระทำดังกล่าวได้บุญ ซึ่งความจริงแล้ว บางอย่างก็ได้บุญน้อย บางอย่างก็ได้บุญมาก บางอย่างนั้น ก็ไม่ได้บุญเลย หนำซ้ำกิจกรรมบางอย่าง ก็ได้บาปมาแทน ทำให้ไม่มีบุญมาส่งเสริม ทำให้ชีวิตดีขึ้น อย่างเช่น การเข้าวัดเฉยๆ การกราบพระพุทธรูปเพื่อขอพร การสวดมนต์ เพื่อขอให้ชีวิตร่ำรวย การแก้กรรม หรือการไปร่วมพิธีกรรมต่างๆ เป็นต้น
๔. ทำบุญมาก แต่ได้บุญน้อย หลายๆ คน ยังคงทำมาหากิน ในอาชีพที่ผิดศีล เงินที่หามาได้ จึงเป็นเงินที่ไม่บริสุทธิ์ ซึ่งเงินก้อนนี้ หากเอาไปทำบุญ ก็จะได้บุญน้อยมาก จึงไม่มีผลบุญ ที่จะมาช่วย ให้ชีวิตดีขึ้น
๕. ความเข้าใจผิด คิดว่าละบาปแล้ว หลายคนมีความเข้าใจ ในเรื่องของการทำบาปไม่ครบถ้วน จึงคิดว่า การกระทำของตน ไม่เป็นบาป และยังคงทำกรรมนั้น อย่างต่อเนื่องไม่หยุด ทำให้ตัวเอง ยังคงได้บาปอย่างต่อเนื่อง ไม่หยุดเช่นกัน จึงส่งผล ให้มีบาปที่รอแสดงผล เป็นจำนวนมาก อย่างเช่น การใช้ของละเมิดลิขสิทธิ์ การพูดให้คนทะเลาะกัน การพูดจาเสียดแทงจิตใจคนอื่น เป็นต้น
๖. การทำบุญ ไม่ตรงกับผลที่ต้องการ หลายๆ ท่าน มีความต้องการ ให้ชีวิตบางด้านดีขึ้น แต่เนื่องจากขาดความเข้าใจ เกี่ยวกับกฎแห่งกรรมที่ถูกต้อง จึงทำบุญ ไม่ตรงกับความต้องการ อย่างเช่น คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับความรัก ควรจะรักษาศีลอุโบสถ เลิกพูดโกหก พูดส่อเสียด พูดหยาบ เป็นต้น แต่ก็กลับไปทำสังฆทาน ที่จะช่วยในเรื่องเงินทอง เป็นต้น
๗. ผลบุญยังไม่แสดงผล มีคนจำนวนไม่น้อย ที่มีความเข้าใจ ในกฎแห่งกรรมอย่างถูกต้อง และได้เริ่มต้นทำบุญ ละบาปมาอย่างต่อเนื่อง ยาวนานนับสิบๆ ปี แต่ชีวิตของพวกเขา ก็ยังไม่ดีขึ้น ที่เป็นอย่างนั้น ก็เพราะบุญ ที่ทำยังไม่สบช่องแสดงผล เพราะในชาติที่แล้ว และชาติก่อนหน้านั้น อาจจะเคยทำบาปเอาไว้มาก บาปที่เคยทำ จึงยังตามแสดงผล ให้เราพบเจอ ความทุกข์อย่างไม่หยุด จึงทำให้ชีวิตยังไม่ดีขึ้น
นี่คือตัวอย่างและเหตุผลบางส่วน ที่จะเตือนสติให้เรา ลองหันกลับมาพิจารณาว่า ตัวเราเองนั้น เข้าใจเรื่องบาปและบุญ อย่างถูกต้องมากน้อยแค่ไหน และแท้จริงแล้ว ตัวเรานั้น ได้ทำบุญหรือทำบาปมากกว่ากัน ถ้าเรามีความเข้าใจที่ถูกต้องแล้ว ก็จะเห็นความจริงว่า เราทำดีมากพอหรือยัง เพราะส่วนใหญ่แล้ว ก็มักจะยังทำบุญไม่มากพอ เพราะยังทำบาปควบคู่ไปด้วย ก็ขอให้ทุกท่าน สามารถรักษาความมุ่งมั่น ในการทำบุญละบาปต่อไป จนกว่าชีวิตจะหาไม่ เพราะถึงอย่างไร เส้นทางนี้ ก็เป็นเส้นทางที่ถูกต้อง ตามที่พระพุทธเจ้าได้ทรงสั่งสอนเอาไว้ และเป็นเส้นทาง ที่จะช่วยให้ชีวิตของเราดีขึ้นได้ อย่างไม่ต้องสงสัย ขอให้ทุกท่านมีชีวิตที่ดีขึ้น ครับ
ขออนุโมทนาบุญ และกราบขอบพระคุณครูบาอาจารย์ ทุกท่าน ที่ให้คติธรรม และข้อคิด ในการดำเนินชีวิต และขออนุโมทนาบุญ กับทุกท่าน ที่มีส่วนร่วม ในการจัดทำคลิบนี้ และรับชมคลิบนี้ สาธุครับ
หลายๆ ท่าน คงจะมีความสงสัย และเกิดคำถามในใจว่า ทำไมเราทำบุญทำทานแล้ว ทำไมชีวิตถึงไม่ดีขึ้นเลย คลิบนี้ผมจึงเอาคติธรรมและข้อคิด ของครูบาอาจารย์ มาให้รับชม เผื่อจะเป็นประโยชน์ และเป็นข้อคิดให้กับทุกท่าน ในการดำเนินชีวิต เพราะว่า หนึ่งในสถานการณ์ ที่มักจะสร้างความคลางแคลงใจ ให้แก่คน ที่เพิ่งจะหันมาศึกษาธรรมะ รวมไปถึงผู้ที่ศึกษาธรรมะมานานแล้ว แต่ยังไม่มีความหนักแน่นมากพอ ที่จะเชื่อมั่นในคำสั่งสอน ของพระพุทธเจ้า นั้นก็คือ ทำไมทำบุญแล้ว แต่ชีวิตไม่ดีขึ้นเลย เรามาดูกันว่า เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น
มีคนจำนวนไม่น้อยที่ ทำกิจกรรมทางศาสนาหลายอย่าง แล้วคิดว่า การกระทำดังกล่าวได้บุญ แต่ความจริงแล้วบางอย่าง ก็ได้บุญน้อย ได้บุญมาก แต่บางอย่างก็ไม่ได้บุญเลย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ ก็มักจะทำให้ความเชื่อมั่น ในพระพุทธศาสนาของบางคนนั้นสั่นคลอน แล้วก็กลายเป็นคนหลงผิด เพราะเหตุใดการทำบุญ จึงไม่ทำให้ชีวิต ของคนบางคนนั้นดีขึ้น ครูบาอาจารย์ท่านได้ให้ข้อคิดเตือนสติไว้ดังนี้
๑. ทำบาปเอาไว้มาก แต่ก็ยังทำบุญน้อย เราลองคำนวณดูว่า เราเริ่มศึกษาธรรมะ ตอนอายุเท่าไร แล้วลองเปรียบเทียบดูว่า จำนวนปีที่เราได้ทำบาป กับจำนวนปี ที่เราได้ทำบุญนั้น แตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน ยกตัวอย่าง เช่น เราศึกษาธรรมะอย่างจริงจัง ในช่วงอายุ ๓๐ กว่าๆ และต่อมา ก็ได้หยุดทำบาป แล้วหันมาทำบุญ ในช่วงไม่เกิน ๕ ปีหลัง ซึ่งก็แปลว่า ก่อนหน้านั้น เราทำบาปมาแล้ว ประมาณ ๓๐ ปี และเริ่มทำบุญอย่างจริงจัง มาประมาณ ๕ ปี จะเห็นได้ว่า ปริมาณของการทำบาปในชาตินี้ของเรา ยังมีมากกว่า การทำบุญ ฉะนั้น ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ชีวิตของเรา อาจจะยังไม่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในตอนนี้
๒. บุญก็ทำ บาปก็ไม่เลิก มีคนจำนวนไม่น้อย ที่ศึกษาธรรมะ แต่เข้าถึงหลักธรรมเพียงด้านเดียว คือการทำบุญ โดยไม่ได้สนใจในการเลิกทำบาป จึงทำบุญไปด้วย และก็ทำบาปไปด้วย จึงทำให้ชีวิตโดยรวม มีสภาพลุ่มๆ ดอนๆ บางครั้งชีวิตก็ดี เพราะผลบุญที่ทำ บางครั้งชีวิตก็แย่ เพราะผลของบาป ที่เราไม่ได้ลดละ
๓. เข้าใจผิด คิดว่ากำลังทำบุญอยู่ มีคนจำนวนไม่น้อย ที่ทำกิจกรรมทางศาสนาหลายอย่าง แล้วคิดว่า การกระทำดังกล่าวได้บุญ ซึ่งความจริงแล้ว บางอย่างก็ได้บุญน้อย บางอย่างก็ได้บุญมาก บางอย่างนั้น ก็ไม่ได้บุญเลย หนำซ้ำกิจกรรมบางอย่าง ก็ได้บาปมาแทน ทำให้ไม่มีบุญมาส่งเสริม ทำให้ชีวิตดีขึ้น อย่างเช่น การเข้าวัดเฉยๆ การกราบพระพุทธรูปเพื่อขอพร การสวดมนต์ เพื่อขอให้ชีวิตร่ำรวย การแก้กรรม หรือการไปร่วมพิธีกรรมต่างๆ เป็นต้น
๔. ทำบุญมาก แต่ได้บุญน้อย หลายๆ คน ยังคงทำมาหากิน ในอาชีพที่ผิดศีล เงินที่หามาได้ จึงเป็นเงินที่ไม่บริสุทธิ์ ซึ่งเงินก้อนนี้ หากเอาไปทำบุญ ก็จะได้บุญน้อยมาก จึงไม่มีผลบุญ ที่จะมาช่วย ให้ชีวิตดีขึ้น
๕. ความเข้าใจผิด คิดว่าละบาปแล้ว หลายคนมีความเข้าใจ ในเรื่องของการทำบาปไม่ครบถ้วน จึงคิดว่า การกระทำของตน ไม่เป็นบาป และยังคงทำกรรมนั้น อย่างต่อเนื่องไม่หยุด ทำให้ตัวเอง ยังคงได้บาปอย่างต่อเนื่อง ไม่หยุดเช่นกัน จึงส่งผล ให้มีบาปที่รอแสดงผล เป็นจำนวนมาก อย่างเช่น การใช้ของละเมิดลิขสิทธิ์ การพูดให้คนทะเลาะกัน การพูดจาเสียดแทงจิตใจคนอื่น เป็นต้น
๖. การทำบุญ ไม่ตรงกับผลที่ต้องการ หลายๆ ท่าน มีความต้องการ ให้ชีวิตบางด้านดีขึ้น แต่เนื่องจากขาดความเข้าใจ เกี่ยวกับกฎแห่งกรรมที่ถูกต้อง จึงทำบุญ ไม่ตรงกับความต้องการ อย่างเช่น คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับความรัก ควรจะรักษาศีลอุโบสถ เลิกพูดโกหก พูดส่อเสียด พูดหยาบ เป็นต้น แต่ก็กลับไปทำสังฆทาน ที่จะช่วยในเรื่องเงินทอง เป็นต้น
๗. ผลบุญยังไม่แสดงผล มีคนจำนวนไม่น้อย ที่มีความเข้าใจ ในกฎแห่งกรรมอย่างถูกต้อง และได้เริ่มต้นทำบุญ ละบาปมาอย่างต่อเนื่อง ยาวนานนับสิบๆ ปี แต่ชีวิตของพวกเขา ก็ยังไม่ดีขึ้น ที่เป็นอย่างนั้น ก็เพราะบุญ ที่ทำยังไม่สบช่องแสดงผล เพราะในชาติที่แล้ว และชาติก่อนหน้านั้น อาจจะเคยทำบาปเอาไว้มาก บาปที่เคยทำ จึงยังตามแสดงผล ให้เราพบเจอ ความทุกข์อย่างไม่หยุด จึงทำให้ชีวิตยังไม่ดีขึ้น
นี่คือตัวอย่างและเหตุผลบางส่วน ที่จะเตือนสติให้เรา ลองหันกลับมาพิจารณาว่า ตัวเราเองนั้น เข้าใจเรื่องบาปและบุญ อย่างถูกต้องมากน้อยแค่ไหน และแท้จริงแล้ว ตัวเรานั้น ได้ทำบุญหรือทำบาปมากกว่ากัน ถ้าเรามีความเข้าใจที่ถูกต้องแล้ว ก็จะเห็นความจริงว่า เราทำดีมากพอหรือยัง เพราะส่วนใหญ่แล้ว ก็มักจะยังทำบุญไม่มากพอ เพราะยังทำบาปควบคู่ไปด้วย ก็ขอให้ทุกท่าน สามารถรักษาความมุ่งมั่น ในการทำบุญละบาปต่อไป จนกว่าชีวิตจะหาไม่ เพราะถึงอย่างไร เส้นทางนี้ ก็เป็นเส้นทางที่ถูกต้อง ตามที่พระพุทธเจ้าได้ทรงสั่งสอนเอาไว้ และเป็นเส้นทาง ที่จะช่วยให้ชีวิตของเราดีขึ้นได้ อย่างไม่ต้องสงสัย ขอให้ทุกท่านมีชีวิตที่ดีขึ้น ครับ
ขออนุโมทนาบุญ และกราบขอบพระคุณครูบาอาจารย์ ทุกท่าน ที่ให้คติธรรม และข้อคิด ในการดำเนินชีวิต และขออนุโมทนาบุญ กับทุกท่าน ที่มีส่วนร่วม ในการจัดทำคลิบนี้ และรับชมคลิบนี้ สาธุครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น