ทำตัวเหมือนโจร (มหาโจรผู้ประกอบด้วยองค์ห้า)



ทำตัวเหมือนโจร

๑. บาลี พระพุทธภาษิต ปญฺจก. อํ. ๒๒/๑๔๕/๑๐๓,
ตรัสแก่ภิกษุทั้งหลาย.

ภิกษุ ท. ! มหาโจรผู้ประกอบด้วยองค์ห้า ย่อมมีโอกาสตัดช่องก็ได้ ย่องเบาก็ได้ ปล้นสดมภ์ก็ได้ ตีชิงก็ได้. องค์ห้าอย่างไรกันเล่า ? องค์ห้าในกรณีนี้คือ
มหาโจรได้อาศัยที่ซ่องสุม ๑,
ได้อาศัยที่กำบัง ๑,
ได้อาศัยพึ่งพิงผู้มีอำนาจ ๑,
ได้อาศัยการโปรยทรัพย์ ๑,
เที่ยวไปคนเดียว ๑.

มหาโจรได้อาศัยที่ซ่องสุม เป็นอย่างไร ?
ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้คือ มหาโจรได้อาศัยเกาะแก่งในแม่น้ำ หรือได้อาศัยหุบเหวตามภูเขา.
นี้แล เรียกว่า มหาโจรได้อาศัยที่ซ่องสุม.

มหาโจรได้อาศัยที่กำบัง เป็นอย่างไร ? ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้คือ มหาโจรได้อาศัยพงหญ้าหรือป่ารก ได้อาศัยเนินดินหรือราวป่าใหญ่เพื่อเป็นที่กำบัง
นี้แล เรียกว่า มหาโจรได้อาศัยที่กำบัง.

มหาโจรได้อาศัยพึ่งพิงผู้มีอำนาจ เป็นอย่างไร ?
ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้ คือ มหาโจรได้อาศัยพระราชาหรืออำมาตย์ผู้ใหญ่ของพระราชา เป็นที่พึ่งว่า “ถ้าใครจักโจทเราด้วยเรื่องอะไร ๆ พระราชาหรืออำมาตย์ผู้ใหญ่ของพระราชา เหล่านี้ จักช่วยโต้แทนเรา” ดังนี้. ครั้นใครโจทมหาโจรนั้นด้วยเรื่องอะไร ๆ ขึ้นจริง, พระราชาหรืออำมาตย์ของพระราชาเหล่านั้น ก็ช่วยโต้แทนให้จริง.
นี้แล เรียกว่า มหาโจรได้อาศัยพึ่งพิงผู้มีอำนาจ.

มหาโจรได้อาศัยการโปรยทรัพย์ เป็นอย่างไร ?
ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้คือ มหาโจรเป็นคนมั่งคั่ง มีทรัพย์สมบัติมาก เขามีแผนการไว้ว่า “ถ้าใครจักโจทเราด้วยเรื่องอะไร ๆ เราจะปิดปากมันเสียด้วยทรัพย์สมบัตินี้” ดังนี้. ครั้นใครโจทมหาโจรนั้นด้วยเรื่องอะไร ๆ ขึ้นจริง, เขาก็ปิดปากคนเหล่านั้นเสียด้วยทรัพย์สมบัตินั้น.
นี้แล เรียกว่า มหาโจรได้อาศัยการโปรยทรัพย์.

มหาโจรเที่ยวไปคนเดียว เป็นอย่างไร ?
ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้คือ มหาโจรประพฤติตนเป็นคนไม่มีเหย้าเรือน เที่ยวไปแต่ผู้เดียว. ที่ทำเช่นนี้เพราะเหตุไร ? เพราะมหาโจรนั้นคิดว่า “มนต์ลับของตนอย่าได้แพร่งพรายไปภายนอกเลย” ดังนี้.
นี้แล เรียกว่า มหาโจรเที่ยวไปคนเดียว.

ภิกษุ ท. ! มหาโจรผู้ประกอบด้วยองค์ห้าเหล่านี้แล้ว ย่อมมีโอกาสตัดช่องก็ได้ ย่องเบาก็ได้ ปล้นสดมภ์ก็ได้ ตีชิงก็ได้. ข้อนี้ฉันใด ;

. . . . . . . . . . . . . . .

ภิกษุ ท. ! ข้อนี้ก็ฉันนั้น : ภิกษุลามก ผู้ประกอบด้วยเหตุห้าอย่าง ย่อมทำตนให้ถูกขุดราก ให้ถูกกำจัดความดี เป็นผู้มีความชั่วติดตัว ผู้รู้พากันติเตียน ได้ประสพสิ่งมิใช่บุญเป็นอันมาก. เหตุห้าอย่างอะไรกันเล่า ? เหตุห้าอย่างในกรณีนี้คือ
ภิกษุลามก ได้อาศัยที่ซ่องสุม ๑,
ได้อาศัยที่กำบัง ๑,
ได้อาศัยพึ่งพิงผู้มีอำนาจ ๑,
ได้อาศัยการโปรยทรัพย์ ๑,
เที่ยวไปคนเดียว ๑ .

ภิกษุลามกได้อาศัยที่ซ่องสุม เป็นอย่างไร ?
ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้คือ ภิกษุลามกเป็นผู้ประกอบด้วยกายกรรมอันคดโกง, เป็นผู้ประกอบด้วยวจีกรรมอันคดโกง, เป็นผู้ประกอบด้วยมโนกรรมอันคดโกง.
นี้แล เรียกว่า ภิกษุลามกได้อาศัยที่ซ่องสุม.

ภิกษุลามกได้อาศัยที่กำบัง เป็นอย่างไร ?
ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้คือ ภิกษุลามกเป็นคนมีมิจฉาทิฏฐิ ประกอบด้วยทิฏฐิอันแล่นดิ่ง ไปจับเอาปลายสุดโต่ง (แห่งความเห็นทั้งปวง).๑
นี้แล เรียกว่า ภิกษุลามกได้อาศัยที่กำบัง.

ภิกษุลามกได้อาศัยพึ่งพิงผู้มีอำนาจ เป็นอย่างไร ?
ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้คือ ภิกษุลามกได้อาศัยพระราชาหรืออำมาตย์ผู้ใหญ่ของพระราชาเป็นที่พึ่งว่า “ถ้าใครจักโจทเราด้วยเรื่องอะไร ๆ, พระราชาหรืออำมาตย์ผู้ใหญ่ของพระราชา เหล่านี้ จักช่วยโต้แทนเรา” ดังนี้. ครั้นใครโจทภิกษุลามกนั้นด้วยเรื่องอะไร ๆ ขึ้นจริง, พระราชาหรืออำมาตย์ผู้ใหญ่ของพระราชาเหล่านั้น ก็ช่วยโต้แทนให้จริง.
นี้แล เรียกว่า ภิกษุลามกได้อาศัยพึ่งพิงผู้มีอำนาจ.

ภิกษุลามกได้อาศัยการโปรยทรัพย์ เป็นอย่างไร ?
ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้คือ ภิกษุลามกเป็นผู้ร่ำรวยลาภด้วยจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และ คิลานปัจจัยเภสัชบริกขาร เธอมีแผนการไว้ว่า “ถ้าใครจักโจทเราด้วยเรื่องอะไร ๆ เราจักปิดปากเขาเสียด้วยลาภนี้” ดังนี้. ครั้นใครโจทภิกษุลามกนั้นด้วยเรื่องอะไร ๆ ขึ้นจริง, เธอก็ปิดปากคนเหล่านั้นเสียด้วยลาภนั้น.
นี้แล เรียกว่า ภิกษุลามกได้อาศัยการโปรยทรัพย์.

๑. เช่นยึดความเห็นว่า ตายแล้วเกิด, หรือตายแล้วสูญ เป็นต้น ; มิได้ถือว่า มีเหตุมีปัจจัย : ถ้าปัจจัยเหลือ ก็เกิด, หมดปัจจัย ก็ไม่เกิด, ดังนี้ เป็นต้น ; ซึ่งเรียกว่าอันตคาหิกทิฏฐิ.

ภิกษุลามกเที่ยวไปคนเดียว เป็นอย่างไร ?
ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้ คือ ภิกษุลามกเลี่ยงไปอยู่เสียตามชนบทปลายแดนแต่ผู้เดียว เธอเข้าไปสู่สกุลทั้งหลายในชนบท ( ที่ไร้การศึกษา ) นั้น ๆ ย่อมได้ลาภ.
นี้แล เรียกว่า ภิกษุ ลามกเที่ยวไปคนเดียว.

ภิกษุ ท. ! ภิกษุลามก ผู้ประกอบด้วยเหตุห้าอย่างเหล่านี้แล้ว ย่อมทำตนให้ถูกขุดราก ให้ถูกกำจัดความดี เป็นผู้มีความชั่วติดตัว ผู้รู้พากันติเตียน ได้ประสพสิ่งมิใช่บุญเป็นอันมาก อย่างนี้แล.

บาลี พระพุทธภาษิต ปญฺจก. อํ. ๒๒/๑๔๕/๑๐๓,
ชุดจากพระโอษฐ์ ๕ เล่ม เล่มที่ ๑
ขุมทรัพย์จากพระโอษฐ์ หน้าที่ ๘

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไตรลักษณ์ 3 ประการ

บาปกรรมหนัก 3 ข้อ ของการเป็นชู้ คบชู้และนอกใจ

กรรมของคน ชอบใส่ร้ายป้ายสี และนินทาผู้อื่น

หนทาง 7 สาย กรรมดีกรรมชั่ว ชีวิตหลังความตาย

อาฆาตแรง ชอบด่าว่า สาปแช่งคนอื่น จะได้รับผลกรรมอะไร

พุทธประวัติ EP.4 การจุติจากดุสิตลงสู่ครรภ์ เกิดแสงสว่าง และแผ่นดินไหว เนื่องด้วยการจุติ

ผ้าเปลือกปอ (เป็นคนทุศีล มีความเป็นอยู่เลวทราม)

พูดโกหก ชอบด่าว่า พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ กรรมหนักแค่ไหน

วันอาสาฬหบูชา มีความสำคัญอย่างไร

ประโยชน์ของการเจริญสมาธิ (สัมมาสมาธิ)