เป็นทุกข์เพราะความรัก เกิดจากวิบากกรรมอะไร
สวัสดีครับ วันนี้ผมมีคติธรรมและข้อคิด
เรื่องวิบากกรรมของความรัก ที่ทำให้เราเป็นทุกข์ มาฝากครับ
เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม
หลายๆ ท่านในตอนนี้ คงจะมีความทุกข์ จากความรักเป็นอย่างมาก พระพุทธองค์ท่านตรัสว่า คนเรามีรักร้อย ก็นับว่าทุกข์ร้อย มีรักสิบ ก็นับว่าทุกข์สิบ มีรักหนึ่ง ก็นับว่าทุกข์หนึ่ง หากไม่มีรักเลย ก็แปลว่าไม่ต้องมีทุกข์ เพราะรักเลย เช่นกัน สรุปคือ ความรักเป็นแค่รูปแบบหนึ่ง ของความทุกข์เท่านั้น ต่อให้รักกันยืดยาวจนแก่เฒ่า วันหนึ่งก็ต้องทุกข์ใหญ่หลวง เพราะความพลัดพราก จากบุคคลอันเป็นที่รักอยู่ดี วันนี้ผมจึงเอาคติธรรม และข้อคิดจากครูบาอาจารย์ มาให้รับชม เผื่อจะเป็นประโยชน์และเป็นข้อคิด ในการใช้ชีวิต ซึ่งวิบากกรรมนั้น ก็เกิดจากสิ่งที่เราเคยทำไว้ในอดีต แล้วเกิดเป็นผลบาปตามมา และกรรมที่เราทำไปแล้ว เราก็ย้อนกลับไปเปลี่ยนไม่ได้ เพราะฉะนั้นการแก้ไขกรรมที่ดีที่สุด ก็คือ อย่าสร้างกรรมไม่ดีเพิ่ม หรือหยุดทำในสิ่งที่ไม่ดี แล้วก็หมั่นสร้างบุญสร้างกุศล ให้กับตัวเอง เรามาดูว่าวิบากกรรม ที่ทำให้เราเป็นทุกข์เพราะความรัก ตามความเชื่อนั้น เกิดจากอะไร และเราควรจะแก้ไขชีวิตอย่างไร
วิบากกรรมของคน ที่มีชีวิตคู่ไม่ราบรื่น และมักทะเลาะเบาะแว้งกันเป็นประจำ ซึ่งตามความเชื่อนั้น สาเหตุของกรรม มาจาก สองกรณีด้วยกัน ซึ่งกรณีแรกคือ ในอดีตชาติ เคยทำบุญร่วมกัน โดยไม่เต็มใจ หรือโดยไม่รู้ตัว ซึ่งในกรณีนี้ ปกติแล้ว จะอยู่กันได้ไม่นาน ก็ต้องร้างลากันไป แต่ทั้งคู่ คงเผลอทำบุญร่วมกัน ในบุญใหญ่ ที่มีความบริสุทธิ์มากจริงๆ จึงทำให้อยู่ร่วมกัน ยาวนานได้ ซึ่งข้อนี้ต้องระวัง ถ้าหากหมดบุญแล้ว จะต้องเลิกรากัน ตามอำนาจแห่งกรรม คู่ชนิดนี้ ความสัมพันธ์ จะไม่ราบรื่น ทะเลาะกันบ่อยครั้ง จนเลิกรากันไป ซึ่งโบราณเรียก เนื้อคู่ชนิดนี้ว่า “เนื้อคู่ข้าวตอก ดอกไม้” คือทั้งคู่ เผลอเอาดอกไม้ ไปถวายพระพร้อมกัน แล้วเผลอแตะตัวกัน ทำให้บุญตรงนั้น บัลดาลให้เป็นคู่รักกัน ตามกำลังบุญ โดยมีระยะเวลาตั้งแต่ ๑-๓๐ ปี ก็ยังมี และหลังจากนั้น ก็ต้องเลิกกัน กรณีที่สองคือ ในอดีตชาติ เคยเป็นคู่แท้ ร่วมกันมา แต่ขาด ความปรองดองต่อกัน ไม่ชอบร่วมมือกัน ชอบทำอะไรกัน คนละทาง ซึ่งอาจเป็นเพราะ การอธิษฐานจิต หรือชอบทำบุญต่างเวลากัน เนื้อคู่ชนิดนี้ ปัจจุบันชาติ อาจไม่เลิกรากัน แต่หากบุญค่อยๆ ขาดจากกัน ก็จะไม่เป็นคู่กันอีก ในชาติต่อๆ ไป
ส่วนวิธีลดกรรม นั้น ให้ร่วมใจกันทำบุญ ร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ เช่น ตักบาตร ถวายสังฆทาน ร่วมเป็นเจ้าภาพงานแต่งงาน ร่วมกันไถ่ชีวิตสัตว์ต่างๆ เป็นต้น ให้ทำร่วมกัน เป็นประจำสม่ำเสมอ หรือทุกวันได้ยิ่งดี โดยให้ตระหนักว่า หากเรากับคู่รัก เป็นกรณีแรก แสดงว่า เผลอทำบุญร่วมกันน้อยมาก ต้องเพิ่มบุญให้มากๆ จะได้ผลัก ชะตากรรม ที่ต้องร้างลากัน ให้ห่างออกไป ให้มากที่สุด และให้หมั่นสวดมนต์ ถือศีล ทำสมาธิร่วมกัน อย่าทำบุญใดๆ หรือถือศีลคนเดียว เพราะจะทำให้เกิดช่องว่าง ของบุญ และบาปขึ้น เช่นเราดื่มสุรา แต่แฟนถือศีล 5 บุญของแฟนเรา ก็จะยิ่งผลักคนที่ศีล 5 ขาด อย่างเรา ให้ไกลจากเขาไปทุกที และที่สำคัญ พยายามสำรวมกาย วาจา ใจ ให้คิดดี พูดดี ทำดี ซึ่งให้เริ่มจากเราก่อน จะได้ไม่เป็น การสร้างบาปต่อกัน แล้วท้ายสุดคือ ให้พยายามทำดี กับคู่รักให้มากๆ ให้คิดเสียว่า หากบุญเนื้อคู่ ขาดกันวันใด เราก็จะ ไม่เสียใจแล้ว เพราะเราทำดี กับเขาที่สุดแล้ว
วิบากกรรมของคน ที่มีชีวิตคู่แล้ว ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต ร่วมกันทำอะไร ก็ไม่เจริญ มีแต่ทรงกับทรุด ซึ่งตามความเชื่อนั้น สาเหตุของกรรม มาจาก ทั้งคู่ เป็นคู่กรรมร่วมกันมา คือร่วมทำทั้งบุญ และบาปร่วมกัน อาจเป็นคู่ ที่ไม่ควรเป็น คู่กันด้วยซ้ำ แต่บุญบาป ในอดีตชาติ ทำให้หันเห มาเป็นคู่ชีวิตกัน หรืออาจเป็นคู่แท้ ร่วมกันมา ในชาติก่อนๆ แต่ร่วมกันทำบาป เล็กๆ น้อยๆ หลายๆ บาป ร่วมกัน บาปกรรมที่ทำ จึงบันดาลให้ชีวิตคู่ ขรุขระไม่ราบรื่น มีอุปสรรค ให้ฟันฝ่าจนเหนื่อยเสมอ หรือในปัจจุบันชาติ ทั้งคู่ อาจร่วมกันทำบาป ร่วมกันเล็กๆ น้อยๆ มาเรื่อยๆ โดยไม่สนใจ ทางบุญกุศลเลย ชีวิตคู่ จึงไม่มีความเจริญเกิดขึ้น
วิธีลดกรรม นั้น ให้ร่วมกันทำบุญ ทำทาน อย่างสม่ำเสมอ หากอุปสรรค ที่พบเจอเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หลายๆ เรื่อง แสดงว่าทั้งคู่ ยังไม่มีบาปกรรมหนักร่วมกัน แต่ก็จงอย่าประมาท ให้รีบทำบุญ ทำกุศลหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อาจเป็นการออกแรง แทนเงินก็ได้ เช่น ร่วมกันกวาดถนน ร่วมกันล้างบ้าน ทำความสะอาดบ้าน ร่วมบริจาคข้าวของ ให้คนยากไร้ ร่วมเป็นอาสา ช่วยงานบุญที่วัด หรืองานการกุศล ตามมูลนิธิต่างๆ ร่วมกันตักบาตรพระ หรือทำบุญต่างๆ ในวัด ร่วมกันไถ่ชีวิตสัตว์ต่างๆ ที่กำลังจะเป็นอาหาร เป็นต้น หรือรักษาศีล นั่งสมาธิภาวนา ร่วมกัน
วิบากกรรมของคน ที่มีชีวิตคู่แล้ว จิตใจไม่สงบ มักฟุ้งซ่าน ร้อนรน เป็นทุกข์เพราะความรัก ซึ่งตามความเชื่อนั้น สาเหตุของกรรม มาจาก บาปทางใจ เช่น เคยริษยาผู้อื่น แค้นเคือง ผูกพยาบาท โกรธโมโห หรือลบหลู่ผู้อื่น เป็นต้น โดยที่เขา ไม่ได้รับรู้เรื่องด้วยเลย กรรมชนิดนี้ จะมีเหตุ มาจากกรรมทางใจชนิด อื่นด้วย และเจ้ากรรมนายเวรของเรา อาจมีหลายคน อาจมีทั้ง ที่เสียชีวิตไปแล้ว และยังมีชีวิตอยู่ บาปจากกรรมนี้ จะทำให้ใจสับสน คล้ายไร้จุดยืน ไม่มีสมาธิ หรือมักจะกังวลเรื่อยเปื่อย
วิธีลดกรรม นั้น ให้หมั่นทำบุญใส่บาตร ถวายสังฆทาน ให้ทาน หรือไถ่ชีวิตสัตว์ และให้หมั่นนั่งสมาธิ สวดมนต์ และแผ่เมตตา อธิษฐานจิต ให้เจ้ากรรมนายเวร อโหสิกรรมให้ หรืออธิษฐานจิต ตัดความทุกข์ทางใจ ของเราเอง อาจจะอธิษฐานจิต แผ่เมตตา ให้ผู้มีเรื่องกับเรา อยู่ดีมีสุข ไม่มารบกวนเรา ทางใจอีก และให้เน้นการปล่อย วางทางใจ
วิบากกรรมของคน ที่มีชีวิตคู่แล้ว เป็นทุกข์เพราะคนรักเจ้าชู้ ซึ่งตามความเชื่อนั้น สาเหตุของกรรม มาจาก ในอดีตชาติ หรือแม้แต่ชาติปัจจุบัน เป็นคนเจ้าชู้ ไม่รักใครมั่นคง ชอบหลอกผู้อื่น ให้อกหัก และเศร้าโศก อาจมีพฤติกรรม นอกใจคู่รัก เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
วิธีลดกรรม นั้น ให้ลดบาปกรรมที่ตัวเรา โดยเริ่มประพฤติดี ปฏิบัติดี ทั้งความคิด กาย วาจา และใจ หากตนเองนั้น มีพฤติกรรมเป็นคนหลายใจ ก็ให้เลิกเสีย เพราะจะเป็นบาป ส่งให้คนรักเรา นอกใจเรา อยู่ร่ำไป หากคนรักเป็นคนเจ้าชู้มาก ให้ปรับพฤติกรรม ของเราเสีย การราวี และจับผิด หรือทะเลาะเบาะแว้ง เพราะเรื่องนี้ เป็นการสร้างเวรกรรมใหม่เพิ่ม นอกจากจะระงับ กรรมปัจจุบันไม่ได้แล้ว ยังทำให้เรื่องราว รุกลามใหญ่โตอีกด้วย พยายามทำบุญ ให้จิตใจผ่องใส ให้ทำบุญ และอธิษฐานจิตบ่อยๆ ให้หมดเวร หมดกรรมตรงนี้เสีย จะได้เกิดการเปลี่ยนแปลง ที่ดีงามต่อชีวิต ส่วนการทำบุญ เกี่ยวกับความรัก เช่น ถวายทานเป็นคู่ ร่วมทำบุญ งานแต่งงาน ทำสิ่งดีๆ ให้คนอื่น ได้สมรัก สมหวังกัน เป็นต้น จะช่วยส่งเสริม ให้ความรักของเรา ได้สมหวัง
วิบากกรรมของคน ที่ได้คู่ครอง เป็นคนมีเจ้าของอยู่แล้ว ซึ่งตามความเชื่อนั้น สาเหตุของกรรม มาจาก ทั้งในอดีตชาติ และปัจจุบันชาติ ต้องเคยทำผิดศีลข้อ 3 นั่นก็คือ ชอบเสพกาม กับผู้มีเจ้าของอยู่แล้ว หรือประพฤติผิดทางกาม เช่น มีความสัมพันธ์ชู้สาว กับลูก กับเมีย หรือสามีของผู้อื่น โดยที่ทำให้ ครอบครัวของเขา ต้องมีความร้าวราน เจ็บปวด หรือแตกแยก ไม่เช่นนั้น ทางเรา ก็ต้องมีเจ้าของอยู่แล้ว แล้วเราทำผิด ต่อคู่รักตนเอง หรือ อาจเคย ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยที่เขาไม่ยินยอม หรือในอดีตชาติ เคยอธิษฐานจิต ร่วมกันมาว่า กี่ชาติ ก็ขอให้ได้ ใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ซึ่งถ้าคู่ ที่เราอธิษฐาน ร่วมกันไว้นั้น มีกรรมร่วมกับผู้อื่น มากกว่า หรือก่อนที่เรา จะเข้าไปในชีวิตเขา เราเข้าไปภายหลัง ก็ย่อมได้คู่ครอง ที่เป็นคน มีเจ้าของอยู่แล้ว
วิธีลดกรรม นั้น หากมีสติ ก็สามารถหยุดบาปปัจจุบันไว้ได้ พยายามหนีห่าง ออกมาจากสภาพ ที่เป็นอยู่เสีย ส่วนวิธีสร้างบุญ คือ ร่วมเป็นเจ้าภาพช่วยเหลือ งานแต่งงาน หรือถวายทานเป็นคู่ เช่น ถวายธงคู่ ธูปคู่ เชิงเทียนคู่ หมอนคู่ เครื่องไทยทานคู่ เป็นต้น และทุกครั้ง ที่ทำบุญ ก็ควรอุทิศผลบุญ แผ่เมตตา ให้เจ้ากรรมนายเวร ที่เคยมีบาปกรรมต่อกัน และขออโหสิกรรมเสีย การทำบุญทุกชนิด และการอธิษฐานจิต ขอให้เขาไปดี มีความสุข และขอให้ตัดขาด จากกันไป จะช่วยบรรเทากรรมตรงนี้ได้ ส่วนวิธีลดกรรม ที่ดีที่สุด คือ การถือเพศพรหมจรรย์ เช่น ถือศีล 8 บวชชี หรือชีพราหมณ์ หากเป็นผู้ชาย ก็สามารถบวชพระได้ อาจกำหนดเวลาที่ถือศีล และบวช แล้วแต่ความสะดวก
วิบากกรรมของคน ที่มีชีวิตคู่แล้ว โดนคนรักเอาเปรียบ ซึ่งตามความเชื่อนั้น สาเหตุของกรรม มาจาก เคยเบียดเบียนเงิน หรือสิ่งของ ของผู้อื่น เช่น ของพ่อแม่ ญาติพี่น้อง โดยเฉพาะ คนที่เป็นคู่เวร คู่กรรมกับเรา ไว้ในอดีตชาติ หรือเคยโกง ผู้มีพระคุณ หรือคู่เวรคู่กรรม ไว้ในอดีตชาติ กรรมชนิดนี้ รวมถึง การขโมยเงิน หรือทรัพย์สินต่างๆ ของครอบครัว และของคู่เวร คู่กรรมของเรามาใช้
วิธีลดกรรม นั้น ให้ลดกรรม ด้วยการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และการให้ทานทุกประเภท อย่ายึดติด ในสิ่งของ ที่ต้องใช้ร่วมกัน และให้ถือเสียว่า การที่เราเผื่อแผ่ ในสิ่งที่เรา ไม่ได้ใช้ หรือไม่มีประโยชน์ ต่อเรามากนัก ก็นับว่า เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น ซึ่งเราควรยินดีด้วย และหลังจากการให้ทานแล้ว ให้อธิษฐานจิต ขออโหสิกรรมเจ้ากรรมนายเวร หรือคนรักของเรา อย่าให้มี เวรกรรมต่อกัน และจง อย่าคิดแค้น หรือเอาคืน จากคนรัก ที่กำลังเอาเปรียบเราอยู่ เพราะจะเป็น เวรกรรมต่อกัน ไม่จบสิ้น
วิบากกรรมของคน ที่มีชีวิตคู่แล้ว ต้องพลัดพรากจากคนรัก ทั้งที่คนรักยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งตามความเชื่อนั้น สาเหตุของกรรม มาจาก ในอดีตชาติ เคยได้ทำการ พรากลูก พรากเมียผู้อื่น หรือได้วางแผนยุยง และทำให้บ้านเมือง และหมู่คณะ โดยเฉพาะกลุ่ม คนที่รักกัน ต้องพลัดพราก แตกแยกกัน บาปชนิดนี้ เกิดขึ้น เพราะทั้งเรา และคนที่เรารัก อาจเป็นคน ร่วมกันทำ ในอดีตชาติ หรืออาจจะทำฝ่ายเดียว ส่วนอีกฝ่ายหนึ่ง สบรู้ร่วมคิด รู้เห็นเป็นใจ ทำให้ ในชาติปัจจุบัน ทั้งเรา และคนที่เรารัก ต้องรับกรรม แตกแยกจากกัน ไม่มีทาง ได้กลับมารักกันได้ หรือยังรักกัน แต่ไม่สามารถ อยู่ร่วมกันได้ หากเรามีครอบครัว ครอบครัวของเรา อาจแตกแยก พลัดพราก บ้านแตกสาแหรกขาด อย่างที่ไม่ต้องการ จะให้เกิดขึ้นเลยในชีวิต
วิธีลดกรรม นั้น หากต้องพลัดพราก จากครอบครัว และบ้านเมืองอันเป็นที่รัก แสดงว่า เป็นบาปกรรมหนัก อาจเป็นกรรม ที่ทำให้ประเทศชาติ และคนในชาติ ต้องแตกแยกร้าวราน จำต้องอดทน รับกรรมที่เกิดขึ้น เพราะบาปที่เกิดขึ้นหนักมาก บุญที่ทำ ไม่อาจผลักดัน ให้บาปนั้นเคลื่อนห่าง ไปได้โดยง่าย แต่ก็ให้ทำ การลดกรรม ด้วยการทำบุญตลอดเวลา จะได้ไม่มีผลบาป ส่งไปถึงชาติหน้า และชาตินี้ ก็อาจมีโอกาส ที่กรรมตรงนี้ จะหมดไป ให้เน้นการทำบุญ ที่เป็นการส่งเสริม ให้เกิดความปรองดองขึ้น เช่น บริจาคเงิน เข้าโครงการ ร่วมพัฒนาชนบท อาหารกลางวันเด็ก โครงการช่วยเหลือเด็กบ้านแตก หรือเด็กกำพร้า เป็นต้น และที่สำคัญ เงินที่ใช้บริจาคทาน ไม่ควรมาจาก การโกงกิน หรือโดยมิชอบ และหลังจาก การทำบุญทุกครั้ง ให้อธิษฐานจิต เพื่อให้เจ้ากรรมนายเวร อโหสิกรรมให้ และหากรู้ว่า การกลับคืนมา ของคนที่รัก ไม่สามารถเป็นไปได้ ก็ให้ทำบุญ แผ่ส่วนบุญกุศล ไปถึงคนที่เรารักบ่อยๆ เพื่อให้ชีวิตของเขา มีความสุข และให้หมั่นอุทิศตัวทำบุญ เพื่อสาธารณประโยชน์ให้ได้มากครั้งที่สุด
เป็นยังไงบ้างครับคุณผู้ชม วิบากกรรมของความรัก ที่ทำให้เราเป็นทุกข์ รักนั้น เป็นต้นเหตุแห่งความทุกข์ เป็นที่มา ของความผิดหวัง เมื่อไม่ได้บุคคล อันเป็นที่รักมาครอง เป็นที่มา ของความคร่ำครวญ เมื่อพลัดพราก จากบุคคลอันเป็นที่รัก เป็นที่มา ของความอึดอัด เมื่อได้อยู่ร่วมกับ คนที่เข้ากับเราไม่ได้เต็มร้อย กิเลสมากก็ทุกข์มาก กิเลสน้อยก็ทุกข์น้อย สมดังที่พระพุทธองค์ตรัสว่า ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์
เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม
ขออนุโมทนาบุญ และกราบขอบพระคุณครูบาอาจารย์ทุกท่าน ที่ให้คติธรรม และข้อคิด ในการดำเนินชีวิต และขออนุโมทนาบุญ กับทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการจัดทำคลิบนี้
ขอบคุณที่มา http://purifilm.blogspot.com/2017/12/ep19.html
เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม
หลายๆ ท่านในตอนนี้ คงจะมีความทุกข์ จากความรักเป็นอย่างมาก พระพุทธองค์ท่านตรัสว่า คนเรามีรักร้อย ก็นับว่าทุกข์ร้อย มีรักสิบ ก็นับว่าทุกข์สิบ มีรักหนึ่ง ก็นับว่าทุกข์หนึ่ง หากไม่มีรักเลย ก็แปลว่าไม่ต้องมีทุกข์ เพราะรักเลย เช่นกัน สรุปคือ ความรักเป็นแค่รูปแบบหนึ่ง ของความทุกข์เท่านั้น ต่อให้รักกันยืดยาวจนแก่เฒ่า วันหนึ่งก็ต้องทุกข์ใหญ่หลวง เพราะความพลัดพราก จากบุคคลอันเป็นที่รักอยู่ดี วันนี้ผมจึงเอาคติธรรม และข้อคิดจากครูบาอาจารย์ มาให้รับชม เผื่อจะเป็นประโยชน์และเป็นข้อคิด ในการใช้ชีวิต ซึ่งวิบากกรรมนั้น ก็เกิดจากสิ่งที่เราเคยทำไว้ในอดีต แล้วเกิดเป็นผลบาปตามมา และกรรมที่เราทำไปแล้ว เราก็ย้อนกลับไปเปลี่ยนไม่ได้ เพราะฉะนั้นการแก้ไขกรรมที่ดีที่สุด ก็คือ อย่าสร้างกรรมไม่ดีเพิ่ม หรือหยุดทำในสิ่งที่ไม่ดี แล้วก็หมั่นสร้างบุญสร้างกุศล ให้กับตัวเอง เรามาดูว่าวิบากกรรม ที่ทำให้เราเป็นทุกข์เพราะความรัก ตามความเชื่อนั้น เกิดจากอะไร และเราควรจะแก้ไขชีวิตอย่างไร
วิบากกรรมของคน ที่มีชีวิตคู่ไม่ราบรื่น และมักทะเลาะเบาะแว้งกันเป็นประจำ ซึ่งตามความเชื่อนั้น สาเหตุของกรรม มาจาก สองกรณีด้วยกัน ซึ่งกรณีแรกคือ ในอดีตชาติ เคยทำบุญร่วมกัน โดยไม่เต็มใจ หรือโดยไม่รู้ตัว ซึ่งในกรณีนี้ ปกติแล้ว จะอยู่กันได้ไม่นาน ก็ต้องร้างลากันไป แต่ทั้งคู่ คงเผลอทำบุญร่วมกัน ในบุญใหญ่ ที่มีความบริสุทธิ์มากจริงๆ จึงทำให้อยู่ร่วมกัน ยาวนานได้ ซึ่งข้อนี้ต้องระวัง ถ้าหากหมดบุญแล้ว จะต้องเลิกรากัน ตามอำนาจแห่งกรรม คู่ชนิดนี้ ความสัมพันธ์ จะไม่ราบรื่น ทะเลาะกันบ่อยครั้ง จนเลิกรากันไป ซึ่งโบราณเรียก เนื้อคู่ชนิดนี้ว่า “เนื้อคู่ข้าวตอก ดอกไม้” คือทั้งคู่ เผลอเอาดอกไม้ ไปถวายพระพร้อมกัน แล้วเผลอแตะตัวกัน ทำให้บุญตรงนั้น บัลดาลให้เป็นคู่รักกัน ตามกำลังบุญ โดยมีระยะเวลาตั้งแต่ ๑-๓๐ ปี ก็ยังมี และหลังจากนั้น ก็ต้องเลิกกัน กรณีที่สองคือ ในอดีตชาติ เคยเป็นคู่แท้ ร่วมกันมา แต่ขาด ความปรองดองต่อกัน ไม่ชอบร่วมมือกัน ชอบทำอะไรกัน คนละทาง ซึ่งอาจเป็นเพราะ การอธิษฐานจิต หรือชอบทำบุญต่างเวลากัน เนื้อคู่ชนิดนี้ ปัจจุบันชาติ อาจไม่เลิกรากัน แต่หากบุญค่อยๆ ขาดจากกัน ก็จะไม่เป็นคู่กันอีก ในชาติต่อๆ ไป
ส่วนวิธีลดกรรม นั้น ให้ร่วมใจกันทำบุญ ร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ เช่น ตักบาตร ถวายสังฆทาน ร่วมเป็นเจ้าภาพงานแต่งงาน ร่วมกันไถ่ชีวิตสัตว์ต่างๆ เป็นต้น ให้ทำร่วมกัน เป็นประจำสม่ำเสมอ หรือทุกวันได้ยิ่งดี โดยให้ตระหนักว่า หากเรากับคู่รัก เป็นกรณีแรก แสดงว่า เผลอทำบุญร่วมกันน้อยมาก ต้องเพิ่มบุญให้มากๆ จะได้ผลัก ชะตากรรม ที่ต้องร้างลากัน ให้ห่างออกไป ให้มากที่สุด และให้หมั่นสวดมนต์ ถือศีล ทำสมาธิร่วมกัน อย่าทำบุญใดๆ หรือถือศีลคนเดียว เพราะจะทำให้เกิดช่องว่าง ของบุญ และบาปขึ้น เช่นเราดื่มสุรา แต่แฟนถือศีล 5 บุญของแฟนเรา ก็จะยิ่งผลักคนที่ศีล 5 ขาด อย่างเรา ให้ไกลจากเขาไปทุกที และที่สำคัญ พยายามสำรวมกาย วาจา ใจ ให้คิดดี พูดดี ทำดี ซึ่งให้เริ่มจากเราก่อน จะได้ไม่เป็น การสร้างบาปต่อกัน แล้วท้ายสุดคือ ให้พยายามทำดี กับคู่รักให้มากๆ ให้คิดเสียว่า หากบุญเนื้อคู่ ขาดกันวันใด เราก็จะ ไม่เสียใจแล้ว เพราะเราทำดี กับเขาที่สุดแล้ว
วิบากกรรมของคน ที่มีชีวิตคู่แล้ว ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต ร่วมกันทำอะไร ก็ไม่เจริญ มีแต่ทรงกับทรุด ซึ่งตามความเชื่อนั้น สาเหตุของกรรม มาจาก ทั้งคู่ เป็นคู่กรรมร่วมกันมา คือร่วมทำทั้งบุญ และบาปร่วมกัน อาจเป็นคู่ ที่ไม่ควรเป็น คู่กันด้วยซ้ำ แต่บุญบาป ในอดีตชาติ ทำให้หันเห มาเป็นคู่ชีวิตกัน หรืออาจเป็นคู่แท้ ร่วมกันมา ในชาติก่อนๆ แต่ร่วมกันทำบาป เล็กๆ น้อยๆ หลายๆ บาป ร่วมกัน บาปกรรมที่ทำ จึงบันดาลให้ชีวิตคู่ ขรุขระไม่ราบรื่น มีอุปสรรค ให้ฟันฝ่าจนเหนื่อยเสมอ หรือในปัจจุบันชาติ ทั้งคู่ อาจร่วมกันทำบาป ร่วมกันเล็กๆ น้อยๆ มาเรื่อยๆ โดยไม่สนใจ ทางบุญกุศลเลย ชีวิตคู่ จึงไม่มีความเจริญเกิดขึ้น
วิธีลดกรรม นั้น ให้ร่วมกันทำบุญ ทำทาน อย่างสม่ำเสมอ หากอุปสรรค ที่พบเจอเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หลายๆ เรื่อง แสดงว่าทั้งคู่ ยังไม่มีบาปกรรมหนักร่วมกัน แต่ก็จงอย่าประมาท ให้รีบทำบุญ ทำกุศลหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อาจเป็นการออกแรง แทนเงินก็ได้ เช่น ร่วมกันกวาดถนน ร่วมกันล้างบ้าน ทำความสะอาดบ้าน ร่วมบริจาคข้าวของ ให้คนยากไร้ ร่วมเป็นอาสา ช่วยงานบุญที่วัด หรืองานการกุศล ตามมูลนิธิต่างๆ ร่วมกันตักบาตรพระ หรือทำบุญต่างๆ ในวัด ร่วมกันไถ่ชีวิตสัตว์ต่างๆ ที่กำลังจะเป็นอาหาร เป็นต้น หรือรักษาศีล นั่งสมาธิภาวนา ร่วมกัน
วิบากกรรมของคน ที่มีชีวิตคู่แล้ว จิตใจไม่สงบ มักฟุ้งซ่าน ร้อนรน เป็นทุกข์เพราะความรัก ซึ่งตามความเชื่อนั้น สาเหตุของกรรม มาจาก บาปทางใจ เช่น เคยริษยาผู้อื่น แค้นเคือง ผูกพยาบาท โกรธโมโห หรือลบหลู่ผู้อื่น เป็นต้น โดยที่เขา ไม่ได้รับรู้เรื่องด้วยเลย กรรมชนิดนี้ จะมีเหตุ มาจากกรรมทางใจชนิด อื่นด้วย และเจ้ากรรมนายเวรของเรา อาจมีหลายคน อาจมีทั้ง ที่เสียชีวิตไปแล้ว และยังมีชีวิตอยู่ บาปจากกรรมนี้ จะทำให้ใจสับสน คล้ายไร้จุดยืน ไม่มีสมาธิ หรือมักจะกังวลเรื่อยเปื่อย
วิธีลดกรรม นั้น ให้หมั่นทำบุญใส่บาตร ถวายสังฆทาน ให้ทาน หรือไถ่ชีวิตสัตว์ และให้หมั่นนั่งสมาธิ สวดมนต์ และแผ่เมตตา อธิษฐานจิต ให้เจ้ากรรมนายเวร อโหสิกรรมให้ หรืออธิษฐานจิต ตัดความทุกข์ทางใจ ของเราเอง อาจจะอธิษฐานจิต แผ่เมตตา ให้ผู้มีเรื่องกับเรา อยู่ดีมีสุข ไม่มารบกวนเรา ทางใจอีก และให้เน้นการปล่อย วางทางใจ
วิบากกรรมของคน ที่มีชีวิตคู่แล้ว เป็นทุกข์เพราะคนรักเจ้าชู้ ซึ่งตามความเชื่อนั้น สาเหตุของกรรม มาจาก ในอดีตชาติ หรือแม้แต่ชาติปัจจุบัน เป็นคนเจ้าชู้ ไม่รักใครมั่นคง ชอบหลอกผู้อื่น ให้อกหัก และเศร้าโศก อาจมีพฤติกรรม นอกใจคู่รัก เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
วิธีลดกรรม นั้น ให้ลดบาปกรรมที่ตัวเรา โดยเริ่มประพฤติดี ปฏิบัติดี ทั้งความคิด กาย วาจา และใจ หากตนเองนั้น มีพฤติกรรมเป็นคนหลายใจ ก็ให้เลิกเสีย เพราะจะเป็นบาป ส่งให้คนรักเรา นอกใจเรา อยู่ร่ำไป หากคนรักเป็นคนเจ้าชู้มาก ให้ปรับพฤติกรรม ของเราเสีย การราวี และจับผิด หรือทะเลาะเบาะแว้ง เพราะเรื่องนี้ เป็นการสร้างเวรกรรมใหม่เพิ่ม นอกจากจะระงับ กรรมปัจจุบันไม่ได้แล้ว ยังทำให้เรื่องราว รุกลามใหญ่โตอีกด้วย พยายามทำบุญ ให้จิตใจผ่องใส ให้ทำบุญ และอธิษฐานจิตบ่อยๆ ให้หมดเวร หมดกรรมตรงนี้เสีย จะได้เกิดการเปลี่ยนแปลง ที่ดีงามต่อชีวิต ส่วนการทำบุญ เกี่ยวกับความรัก เช่น ถวายทานเป็นคู่ ร่วมทำบุญ งานแต่งงาน ทำสิ่งดีๆ ให้คนอื่น ได้สมรัก สมหวังกัน เป็นต้น จะช่วยส่งเสริม ให้ความรักของเรา ได้สมหวัง
วิบากกรรมของคน ที่ได้คู่ครอง เป็นคนมีเจ้าของอยู่แล้ว ซึ่งตามความเชื่อนั้น สาเหตุของกรรม มาจาก ทั้งในอดีตชาติ และปัจจุบันชาติ ต้องเคยทำผิดศีลข้อ 3 นั่นก็คือ ชอบเสพกาม กับผู้มีเจ้าของอยู่แล้ว หรือประพฤติผิดทางกาม เช่น มีความสัมพันธ์ชู้สาว กับลูก กับเมีย หรือสามีของผู้อื่น โดยที่ทำให้ ครอบครัวของเขา ต้องมีความร้าวราน เจ็บปวด หรือแตกแยก ไม่เช่นนั้น ทางเรา ก็ต้องมีเจ้าของอยู่แล้ว แล้วเราทำผิด ต่อคู่รักตนเอง หรือ อาจเคย ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยที่เขาไม่ยินยอม หรือในอดีตชาติ เคยอธิษฐานจิต ร่วมกันมาว่า กี่ชาติ ก็ขอให้ได้ ใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ซึ่งถ้าคู่ ที่เราอธิษฐาน ร่วมกันไว้นั้น มีกรรมร่วมกับผู้อื่น มากกว่า หรือก่อนที่เรา จะเข้าไปในชีวิตเขา เราเข้าไปภายหลัง ก็ย่อมได้คู่ครอง ที่เป็นคน มีเจ้าของอยู่แล้ว
วิธีลดกรรม นั้น หากมีสติ ก็สามารถหยุดบาปปัจจุบันไว้ได้ พยายามหนีห่าง ออกมาจากสภาพ ที่เป็นอยู่เสีย ส่วนวิธีสร้างบุญ คือ ร่วมเป็นเจ้าภาพช่วยเหลือ งานแต่งงาน หรือถวายทานเป็นคู่ เช่น ถวายธงคู่ ธูปคู่ เชิงเทียนคู่ หมอนคู่ เครื่องไทยทานคู่ เป็นต้น และทุกครั้ง ที่ทำบุญ ก็ควรอุทิศผลบุญ แผ่เมตตา ให้เจ้ากรรมนายเวร ที่เคยมีบาปกรรมต่อกัน และขออโหสิกรรมเสีย การทำบุญทุกชนิด และการอธิษฐานจิต ขอให้เขาไปดี มีความสุข และขอให้ตัดขาด จากกันไป จะช่วยบรรเทากรรมตรงนี้ได้ ส่วนวิธีลดกรรม ที่ดีที่สุด คือ การถือเพศพรหมจรรย์ เช่น ถือศีล 8 บวชชี หรือชีพราหมณ์ หากเป็นผู้ชาย ก็สามารถบวชพระได้ อาจกำหนดเวลาที่ถือศีล และบวช แล้วแต่ความสะดวก
วิบากกรรมของคน ที่มีชีวิตคู่แล้ว โดนคนรักเอาเปรียบ ซึ่งตามความเชื่อนั้น สาเหตุของกรรม มาจาก เคยเบียดเบียนเงิน หรือสิ่งของ ของผู้อื่น เช่น ของพ่อแม่ ญาติพี่น้อง โดยเฉพาะ คนที่เป็นคู่เวร คู่กรรมกับเรา ไว้ในอดีตชาติ หรือเคยโกง ผู้มีพระคุณ หรือคู่เวรคู่กรรม ไว้ในอดีตชาติ กรรมชนิดนี้ รวมถึง การขโมยเงิน หรือทรัพย์สินต่างๆ ของครอบครัว และของคู่เวร คู่กรรมของเรามาใช้
วิธีลดกรรม นั้น ให้ลดกรรม ด้วยการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และการให้ทานทุกประเภท อย่ายึดติด ในสิ่งของ ที่ต้องใช้ร่วมกัน และให้ถือเสียว่า การที่เราเผื่อแผ่ ในสิ่งที่เรา ไม่ได้ใช้ หรือไม่มีประโยชน์ ต่อเรามากนัก ก็นับว่า เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น ซึ่งเราควรยินดีด้วย และหลังจากการให้ทานแล้ว ให้อธิษฐานจิต ขออโหสิกรรมเจ้ากรรมนายเวร หรือคนรักของเรา อย่าให้มี เวรกรรมต่อกัน และจง อย่าคิดแค้น หรือเอาคืน จากคนรัก ที่กำลังเอาเปรียบเราอยู่ เพราะจะเป็น เวรกรรมต่อกัน ไม่จบสิ้น
วิบากกรรมของคน ที่มีชีวิตคู่แล้ว ต้องพลัดพรากจากคนรัก ทั้งที่คนรักยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งตามความเชื่อนั้น สาเหตุของกรรม มาจาก ในอดีตชาติ เคยได้ทำการ พรากลูก พรากเมียผู้อื่น หรือได้วางแผนยุยง และทำให้บ้านเมือง และหมู่คณะ โดยเฉพาะกลุ่ม คนที่รักกัน ต้องพลัดพราก แตกแยกกัน บาปชนิดนี้ เกิดขึ้น เพราะทั้งเรา และคนที่เรารัก อาจเป็นคน ร่วมกันทำ ในอดีตชาติ หรืออาจจะทำฝ่ายเดียว ส่วนอีกฝ่ายหนึ่ง สบรู้ร่วมคิด รู้เห็นเป็นใจ ทำให้ ในชาติปัจจุบัน ทั้งเรา และคนที่เรารัก ต้องรับกรรม แตกแยกจากกัน ไม่มีทาง ได้กลับมารักกันได้ หรือยังรักกัน แต่ไม่สามารถ อยู่ร่วมกันได้ หากเรามีครอบครัว ครอบครัวของเรา อาจแตกแยก พลัดพราก บ้านแตกสาแหรกขาด อย่างที่ไม่ต้องการ จะให้เกิดขึ้นเลยในชีวิต
วิธีลดกรรม นั้น หากต้องพลัดพราก จากครอบครัว และบ้านเมืองอันเป็นที่รัก แสดงว่า เป็นบาปกรรมหนัก อาจเป็นกรรม ที่ทำให้ประเทศชาติ และคนในชาติ ต้องแตกแยกร้าวราน จำต้องอดทน รับกรรมที่เกิดขึ้น เพราะบาปที่เกิดขึ้นหนักมาก บุญที่ทำ ไม่อาจผลักดัน ให้บาปนั้นเคลื่อนห่าง ไปได้โดยง่าย แต่ก็ให้ทำ การลดกรรม ด้วยการทำบุญตลอดเวลา จะได้ไม่มีผลบาป ส่งไปถึงชาติหน้า และชาตินี้ ก็อาจมีโอกาส ที่กรรมตรงนี้ จะหมดไป ให้เน้นการทำบุญ ที่เป็นการส่งเสริม ให้เกิดความปรองดองขึ้น เช่น บริจาคเงิน เข้าโครงการ ร่วมพัฒนาชนบท อาหารกลางวันเด็ก โครงการช่วยเหลือเด็กบ้านแตก หรือเด็กกำพร้า เป็นต้น และที่สำคัญ เงินที่ใช้บริจาคทาน ไม่ควรมาจาก การโกงกิน หรือโดยมิชอบ และหลังจาก การทำบุญทุกครั้ง ให้อธิษฐานจิต เพื่อให้เจ้ากรรมนายเวร อโหสิกรรมให้ และหากรู้ว่า การกลับคืนมา ของคนที่รัก ไม่สามารถเป็นไปได้ ก็ให้ทำบุญ แผ่ส่วนบุญกุศล ไปถึงคนที่เรารักบ่อยๆ เพื่อให้ชีวิตของเขา มีความสุข และให้หมั่นอุทิศตัวทำบุญ เพื่อสาธารณประโยชน์ให้ได้มากครั้งที่สุด
เป็นยังไงบ้างครับคุณผู้ชม วิบากกรรมของความรัก ที่ทำให้เราเป็นทุกข์ รักนั้น เป็นต้นเหตุแห่งความทุกข์ เป็นที่มา ของความผิดหวัง เมื่อไม่ได้บุคคล อันเป็นที่รักมาครอง เป็นที่มา ของความคร่ำครวญ เมื่อพลัดพราก จากบุคคลอันเป็นที่รัก เป็นที่มา ของความอึดอัด เมื่อได้อยู่ร่วมกับ คนที่เข้ากับเราไม่ได้เต็มร้อย กิเลสมากก็ทุกข์มาก กิเลสน้อยก็ทุกข์น้อย สมดังที่พระพุทธองค์ตรัสว่า ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์
เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม
ขออนุโมทนาบุญ และกราบขอบพระคุณครูบาอาจารย์ทุกท่าน ที่ให้คติธรรม และข้อคิด ในการดำเนินชีวิต และขออนุโมทนาบุญ กับทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการจัดทำคลิบนี้
ขอบคุณที่มา http://purifilm.blogspot.com/2017/12/ep19.html
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น