เกิดมารวย เกิดมาจน เพราะเหตุใด
สวัสดีครับคุณผู้ชม คลิบนี้ผมมี คติธรรมและข้อคิด
เรื่องของคน ที่เกิดมารวย เกิดมาจน ว่าเพราะเหตุใด
มาฝากครับ
หลายๆ ท่าน คงจะเคยเห็น คนที่ร่ำรวยในช่วงอายุ ที่แตกต่างกัน เช่น ร่ำรวยตั้งแต่กำเกิด มีกินมีใช้ทั้งชีวิตก้ไม่หมด หรือ เกิดมายากจน แต่บั้นปลายชีวิตกลับรวย หรือ บางคนนั้น รวยในตอนต้น แต่ก็กลับมาจน ในตอนบั้นปลายชีวิต คลิบนี้ผมจึงเอาคติธรรม และข้อคิด จากครูบาอาจารย์มาให้รับชม เผื่อจะเป็นประโยชน์ และเป็นข้อคิดในการดำเนินชีวิต ซึ่งมีความเชื่อกันในเรื่องนี้ว่า เป็นเพราะอานิสงส์ แห่งผลทาน ที่ได้ทำมานั้นเอง เรามาดูกันครับว่า คนที่ร่ำรวยตั้งแต่เกิด ร่ำรวยในวัยกลางคน และร่ำรวยในช่วงบั้นปลายชีวิตนั้น เป็นเพราะสาเหตุใด ครับ
๑. คนที่ร่ำรวยตั้งแต่ต้น หรือร่ำรวยตั้งแต่เกิด
มีความเชื่อว่า คนที่เกิดมารวย ตั้งแต่เกิดนั้น เป็นเพราะในอดีต เขาได้เคยทำทานอย่างสม่ำเสมอ มีความสมบูรณ์ ในเจตนา ตั้งแต่ก่อนจะทำทาน คือ ก่อนทำทาน เขามีความยินดีมาก ที่จะได้ทำ เพื่อหวังจะให้คนอื่น มีความสุข และเมื่อได้เกิดมาในชาตินี้ เขาจึงได้เกิดมาอยู่ ในตระกูลที่ร่ำรวย ชีวิตในวัยต้นจึงอุดมสมบูรณ์พร้อม ไม่ต้องขวนขวายหาเลี้ยงตัวเองมากนัก ก็มีกินอย่างสุขสบาย และถ้าเขา ยิ่งได้เรียนรู้ในธรรม และไม่ประมาทในชีวิต แถมยังขยันขันแข็ง ประกอบแต่อาชีพสุจริต ก็จะยิ่งทำให้ร่ำรวย ไปตลอดชีวิต และไม่มีตกอับ แต่ถ้าหากเขาประมาท ในการสร้างบุญสร้างกุศล และไม่รู้จักรักษาทรัพย์ ที่มีไว้ให้ดี และไม่เรียนรู้ ที่จะสร้างทรัพย์ต่อ มัวแต่หลงระเริงในความสุข เขาก็จะพบกับความทุกข์ ในบั้นปลายชีวิตได้เช่นกัน ซึ่งเป็นไปตามกฎแห่งกรรม
๒. คนที่ร่ำรวย ในวัยกลางคน
มีความเชื่อว่า คนที่ร่ำรวยในวัยกลางคน เป็นเพราะเขา ได้ประกอบกรรมใหม่ ที่เป็นกรรมดี สะสมในปัจจุบัน อีกทั้ง เขามีความขยันขันแข็ง ในกิจการงาน มีความซื่อสัตย์สุจริต แม้เกิดมามีฐานะยากจน หรือปานกลาง เขาก็จะกลายเป็นคนที่ร่ำรวยได้ เพราะการกระทำในสิ่งที่ดีส่งผล เมื่อรวมกับเศษบุญเก่า ที่เคยทำด้วยเจตนา ในการทำทาน เพราะมีความบริสุทธิ์ ในช่วงที่ ๒ คือ ระหว่างที่ให้ทาน มีความบริสุทธิ์ แต่ไม่ได้บริสุทธิ์ ในขณะก่อนจะให้ทาน เพราะช่วง ก่อนที่เขาจะลงมือทำทานนั้น เขาไม่ได้มีจิตศรัทธา ในกฎแห่งกรรม ไม่มีความยินดี ในการให้ทาน หรือในความดีมาก่อน และไม่คิดจะทำทานมาก่อนเลย แต่พอได้ตัดสินใจทำทาน ในขณะที่ทำ เขาเกิด มีความรื่นเริงยินดี ในการทำทานขึ้นมา ด้วยเศษผลบุญ ของระยะทานนี้ จึงได้เกิดมา มีฐานะที่ไม่ร่ำรวย หรือเกิดมายากจน เขาต้องต่อสู้ สร้างฐานะด้วยตัวเอง มาตั้งแต่วัยเด็ก แต่เมื่อถึงวัยกลางคน ด้วยบุญที่สะสมไว้ ทั้งในปัจจุบัน และเศษบุญจากอดีต ที่ได้ทำทานไว้ จึงส่งผลทำให้ชีวิตเขา ประสบความสำเร็จเจริญรุ่งเรือง และหากในอดีตชาติ เจตนาในการทำทานได้บริสุทธิ์ ในระยะที่สามด้วยแล้ว ผลบุญนั้น ก็จะส่งผล ให้กิจการ และงานที่ทำได้ เจริญรุ่งเรืองตลอดไป ไม่ประสบความล้มเหลว หรือหายนะ ในช่วงบั้นปลายชีวิต แต่ถ้าหากว่าในอดีตชาติ ไม่ได้ทำทาน ด้วยความสมบูรณ์และเจตนา ในระยะที่สาม ในบั้นปลายชีวิต ก็อาจมีเหตุที่ทำให้ชีวิตล้มเหลวได้ เพราะผลแห่งทานนั้น หมดกำลังลง และก็ขึ้นอยู่กับกรรมใหม่ ที่เขาได้ทำในชาติปัจจุบันด้วย ดังนั้นในปัจจุบันชาติ จะต้องหมั่นทำบุญทำทานอยู่ตลอด เพื่อเป็นการเสริมกำลังบุญ ให้เป็นแรงสนับสนุน ให้ชีวิตเจริญรุ่งเรืองตลอดไป ครับ
๓. คนที่ร่ำรวยในช่วงบั้นปลายชีวิต มีความเชื่อว่า คนที่ร่ำรวยในบั้นปลายชีวิตนั้น เป็นเพราะเศษบุญเก่า ที่รวมกับบุญใหม่ที่เขาได้ทำ ส่งผลในช่วงหลัง ซึ่งหากเป็นเพราะบุญเก่า ก็คือ ผลแห่งทาน ที่ผู้กระทำนั้น มีเจตนาไม่ดี ในระยะก่อนให้ทาน และ ระหว่างให้ทาน แต่เขากลับมีความยินดี ในระยะสุดท้าย เช่น ก่อนทำ ก็ทำทานเพราะบังเอิญ หรือทำตามคนอื่นแบบไม่ได้ตั้งใจทำ และในขณะที่ให้ทาน ก็ไม่ได้มีศรัทธา พอให้ไปแล้ว กลับไปหวนคิดถึง ผลแห่งทาน แล้วจิตใจก็เกิดความยินดีเป็นสุขขึ้นมา ด้วยเศษบุญนี้ ทำให้ในชาติปัจจุบัน เขาจึงได้เกิดมายากจน และต้องทำงานหนัก เกือบตลอดทั้งชีวิต ต้องต่อสู้ดิ้นรน ขวนขวาย สร้างฐานะด้วยตัวเอง แม้จะเลยวัยกลางคนไปแล้ว ก็ยังล้มลุกคลุกคลาน แต่เมื่อในปัจจุบันชาติ ก็ได้ประกอบคุณงามความดี ทำทานอยู่เสมอ มาโดยตลอด เช่นกัน พอถึงช่วงบั้นปลายชีวิตของเขา จึงทำให้ผลแห่งทานนั้นได้ส่งผล เกิดเหตุประสบช่องทางที่เหมาะ ทำให้กิจการ และงานที่ทำเจริญรุ่งเรือง แบบไม่น่าเชื่อ ทำมาค้าขึ้นอย่างไม่คาดฝัน ซึ่งมีตัวอย่างชีวิตของคนจริงๆ ที่ร่ำรวยมหาศาล ในช่วงบั้นปลายชีวิต
เมื่อเราได้รู้อย่างนี้แล้ว เราก็ควรสร้างบุญสร้างกุศล เร่งพิจารณาตัวเองว่า ถ้าอยากจะเป็นคนร่ำรวย มีความสุข มีคิดทำอะไร ก็สำเร็จตามที่ตนเองปรารถนา ก็ควรหมั่นทำบุญ และชักชวนคนอื่น มาร่วมสร้างบุญด้วยกัน ถ้าเรา อยากจะเป็นคนที่มีความสุข และร่ำรวยตลอดไป ก็ต้องเริ่มที่ตัวเราก่อน เป็นคนดี หมั่นสร้างบุญสร้างกุศล เรื่องของกรรมเก่า ชาติเก่านั้น เราไม่มีทางรู้ได้ว่า เราไปทำอะไรมาบ้าง และจะต้อง ตามไปแก้ไขอย่างไร เพราะกรรมนั้นแก้ไม่ได้ มันเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องส่งผล การไปขออโหสิกรรม เพื่อให้กรรมนั้นยุติการส่งผล หรือเปลี่ยนจากหนักให้เป็นเบา เราก็ควรรู้จักสำนึกผิด หมั่นสร้างความดี ทำบุญไปให้เขา เพราะกรรมเก่านั้น เราแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว เอาชาตินี้ ชาติปัจจุบัน อย่าได้ยอมจำนนต่อกรรมเก่า จงเร่งสร้างกรรมดี สร้างบุญ ให้ส่งผล ให้เห็นกันในชาตินี้ และจงจำไว้เสมอว่า คนที่มีบุญเท่านั้น ที่จะร่ำรวยได้ ครับ
ขออนุโมทนาบุญ และกราบขอบพระคุณครูบาอาจารย์ ทุกท่าน ที่ให้คติธรรม และข้อคิด ในการดำเนินชีวิต และขออนุโมทนาบุญ กับทุกท่านที่มีส่วนร่วม ในการจัดทำคลิบนี้ และรับชมคลิบนี้ สาธุครับ
หลายๆ ท่าน คงจะเคยเห็น คนที่ร่ำรวยในช่วงอายุ ที่แตกต่างกัน เช่น ร่ำรวยตั้งแต่กำเกิด มีกินมีใช้ทั้งชีวิตก้ไม่หมด หรือ เกิดมายากจน แต่บั้นปลายชีวิตกลับรวย หรือ บางคนนั้น รวยในตอนต้น แต่ก็กลับมาจน ในตอนบั้นปลายชีวิต คลิบนี้ผมจึงเอาคติธรรม และข้อคิด จากครูบาอาจารย์มาให้รับชม เผื่อจะเป็นประโยชน์ และเป็นข้อคิดในการดำเนินชีวิต ซึ่งมีความเชื่อกันในเรื่องนี้ว่า เป็นเพราะอานิสงส์ แห่งผลทาน ที่ได้ทำมานั้นเอง เรามาดูกันครับว่า คนที่ร่ำรวยตั้งแต่เกิด ร่ำรวยในวัยกลางคน และร่ำรวยในช่วงบั้นปลายชีวิตนั้น เป็นเพราะสาเหตุใด ครับ
๑. คนที่ร่ำรวยตั้งแต่ต้น หรือร่ำรวยตั้งแต่เกิด
มีความเชื่อว่า คนที่เกิดมารวย ตั้งแต่เกิดนั้น เป็นเพราะในอดีต เขาได้เคยทำทานอย่างสม่ำเสมอ มีความสมบูรณ์ ในเจตนา ตั้งแต่ก่อนจะทำทาน คือ ก่อนทำทาน เขามีความยินดีมาก ที่จะได้ทำ เพื่อหวังจะให้คนอื่น มีความสุข และเมื่อได้เกิดมาในชาตินี้ เขาจึงได้เกิดมาอยู่ ในตระกูลที่ร่ำรวย ชีวิตในวัยต้นจึงอุดมสมบูรณ์พร้อม ไม่ต้องขวนขวายหาเลี้ยงตัวเองมากนัก ก็มีกินอย่างสุขสบาย และถ้าเขา ยิ่งได้เรียนรู้ในธรรม และไม่ประมาทในชีวิต แถมยังขยันขันแข็ง ประกอบแต่อาชีพสุจริต ก็จะยิ่งทำให้ร่ำรวย ไปตลอดชีวิต และไม่มีตกอับ แต่ถ้าหากเขาประมาท ในการสร้างบุญสร้างกุศล และไม่รู้จักรักษาทรัพย์ ที่มีไว้ให้ดี และไม่เรียนรู้ ที่จะสร้างทรัพย์ต่อ มัวแต่หลงระเริงในความสุข เขาก็จะพบกับความทุกข์ ในบั้นปลายชีวิตได้เช่นกัน ซึ่งเป็นไปตามกฎแห่งกรรม
๒. คนที่ร่ำรวย ในวัยกลางคน
มีความเชื่อว่า คนที่ร่ำรวยในวัยกลางคน เป็นเพราะเขา ได้ประกอบกรรมใหม่ ที่เป็นกรรมดี สะสมในปัจจุบัน อีกทั้ง เขามีความขยันขันแข็ง ในกิจการงาน มีความซื่อสัตย์สุจริต แม้เกิดมามีฐานะยากจน หรือปานกลาง เขาก็จะกลายเป็นคนที่ร่ำรวยได้ เพราะการกระทำในสิ่งที่ดีส่งผล เมื่อรวมกับเศษบุญเก่า ที่เคยทำด้วยเจตนา ในการทำทาน เพราะมีความบริสุทธิ์ ในช่วงที่ ๒ คือ ระหว่างที่ให้ทาน มีความบริสุทธิ์ แต่ไม่ได้บริสุทธิ์ ในขณะก่อนจะให้ทาน เพราะช่วง ก่อนที่เขาจะลงมือทำทานนั้น เขาไม่ได้มีจิตศรัทธา ในกฎแห่งกรรม ไม่มีความยินดี ในการให้ทาน หรือในความดีมาก่อน และไม่คิดจะทำทานมาก่อนเลย แต่พอได้ตัดสินใจทำทาน ในขณะที่ทำ เขาเกิด มีความรื่นเริงยินดี ในการทำทานขึ้นมา ด้วยเศษผลบุญ ของระยะทานนี้ จึงได้เกิดมา มีฐานะที่ไม่ร่ำรวย หรือเกิดมายากจน เขาต้องต่อสู้ สร้างฐานะด้วยตัวเอง มาตั้งแต่วัยเด็ก แต่เมื่อถึงวัยกลางคน ด้วยบุญที่สะสมไว้ ทั้งในปัจจุบัน และเศษบุญจากอดีต ที่ได้ทำทานไว้ จึงส่งผลทำให้ชีวิตเขา ประสบความสำเร็จเจริญรุ่งเรือง และหากในอดีตชาติ เจตนาในการทำทานได้บริสุทธิ์ ในระยะที่สามด้วยแล้ว ผลบุญนั้น ก็จะส่งผล ให้กิจการ และงานที่ทำได้ เจริญรุ่งเรืองตลอดไป ไม่ประสบความล้มเหลว หรือหายนะ ในช่วงบั้นปลายชีวิต แต่ถ้าหากว่าในอดีตชาติ ไม่ได้ทำทาน ด้วยความสมบูรณ์และเจตนา ในระยะที่สาม ในบั้นปลายชีวิต ก็อาจมีเหตุที่ทำให้ชีวิตล้มเหลวได้ เพราะผลแห่งทานนั้น หมดกำลังลง และก็ขึ้นอยู่กับกรรมใหม่ ที่เขาได้ทำในชาติปัจจุบันด้วย ดังนั้นในปัจจุบันชาติ จะต้องหมั่นทำบุญทำทานอยู่ตลอด เพื่อเป็นการเสริมกำลังบุญ ให้เป็นแรงสนับสนุน ให้ชีวิตเจริญรุ่งเรืองตลอดไป ครับ
๓. คนที่ร่ำรวยในช่วงบั้นปลายชีวิต มีความเชื่อว่า คนที่ร่ำรวยในบั้นปลายชีวิตนั้น เป็นเพราะเศษบุญเก่า ที่รวมกับบุญใหม่ที่เขาได้ทำ ส่งผลในช่วงหลัง ซึ่งหากเป็นเพราะบุญเก่า ก็คือ ผลแห่งทาน ที่ผู้กระทำนั้น มีเจตนาไม่ดี ในระยะก่อนให้ทาน และ ระหว่างให้ทาน แต่เขากลับมีความยินดี ในระยะสุดท้าย เช่น ก่อนทำ ก็ทำทานเพราะบังเอิญ หรือทำตามคนอื่นแบบไม่ได้ตั้งใจทำ และในขณะที่ให้ทาน ก็ไม่ได้มีศรัทธา พอให้ไปแล้ว กลับไปหวนคิดถึง ผลแห่งทาน แล้วจิตใจก็เกิดความยินดีเป็นสุขขึ้นมา ด้วยเศษบุญนี้ ทำให้ในชาติปัจจุบัน เขาจึงได้เกิดมายากจน และต้องทำงานหนัก เกือบตลอดทั้งชีวิต ต้องต่อสู้ดิ้นรน ขวนขวาย สร้างฐานะด้วยตัวเอง แม้จะเลยวัยกลางคนไปแล้ว ก็ยังล้มลุกคลุกคลาน แต่เมื่อในปัจจุบันชาติ ก็ได้ประกอบคุณงามความดี ทำทานอยู่เสมอ มาโดยตลอด เช่นกัน พอถึงช่วงบั้นปลายชีวิตของเขา จึงทำให้ผลแห่งทานนั้นได้ส่งผล เกิดเหตุประสบช่องทางที่เหมาะ ทำให้กิจการ และงานที่ทำเจริญรุ่งเรือง แบบไม่น่าเชื่อ ทำมาค้าขึ้นอย่างไม่คาดฝัน ซึ่งมีตัวอย่างชีวิตของคนจริงๆ ที่ร่ำรวยมหาศาล ในช่วงบั้นปลายชีวิต
เมื่อเราได้รู้อย่างนี้แล้ว เราก็ควรสร้างบุญสร้างกุศล เร่งพิจารณาตัวเองว่า ถ้าอยากจะเป็นคนร่ำรวย มีความสุข มีคิดทำอะไร ก็สำเร็จตามที่ตนเองปรารถนา ก็ควรหมั่นทำบุญ และชักชวนคนอื่น มาร่วมสร้างบุญด้วยกัน ถ้าเรา อยากจะเป็นคนที่มีความสุข และร่ำรวยตลอดไป ก็ต้องเริ่มที่ตัวเราก่อน เป็นคนดี หมั่นสร้างบุญสร้างกุศล เรื่องของกรรมเก่า ชาติเก่านั้น เราไม่มีทางรู้ได้ว่า เราไปทำอะไรมาบ้าง และจะต้อง ตามไปแก้ไขอย่างไร เพราะกรรมนั้นแก้ไม่ได้ มันเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องส่งผล การไปขออโหสิกรรม เพื่อให้กรรมนั้นยุติการส่งผล หรือเปลี่ยนจากหนักให้เป็นเบา เราก็ควรรู้จักสำนึกผิด หมั่นสร้างความดี ทำบุญไปให้เขา เพราะกรรมเก่านั้น เราแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว เอาชาตินี้ ชาติปัจจุบัน อย่าได้ยอมจำนนต่อกรรมเก่า จงเร่งสร้างกรรมดี สร้างบุญ ให้ส่งผล ให้เห็นกันในชาตินี้ และจงจำไว้เสมอว่า คนที่มีบุญเท่านั้น ที่จะร่ำรวยได้ ครับ
ขออนุโมทนาบุญ และกราบขอบพระคุณครูบาอาจารย์ ทุกท่าน ที่ให้คติธรรม และข้อคิด ในการดำเนินชีวิต และขออนุโมทนาบุญ กับทุกท่านที่มีส่วนร่วม ในการจัดทำคลิบนี้ และรับชมคลิบนี้ สาธุครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น