เจ้ากรรมนายเวร คืออะไร ขออโหสิกรรมอย่างไร
สวัสดีครับคุณผู้ชม คลิบนี้ผมมี คติธรรมและข้อคิด
เรื่องเจ้ากรรมนายเวร ว่าคืออะไร
และเรา ต้องขออโหสิกรรมอย่างไร มาฝากครับ
หลายๆ ท่าน คงจะมีคำถามในใจว่า เจ้ากรรมนายเวรนั้นคืออะไร ซึ่งเจ้ากรรมนายเวรที่ว่านี้ ก็คือ คน หรือสัตว์ หรือสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย รวมไปถึง เจ้ากรรมนายเวร ที่มองไม่เห็น ที่เราได้ไปก่อกรรมจนทำให้เขา เกิดความไม่พอใจ หรือเกิดความอาฆาตขึ้นมา เพราะว่าเขา อาจจะมีเหตุต้องสูญเสีย ในสิ่งที่รัก หรือสิ่งที่ชอบ ด้วยการกระทำของเรา และการกระทำทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นการกระทำทางตรง เช่น ด้วยทางกาย ทางวาจา ทางใจ หรือแม้แต่เรา อาจเป็นผู้มีส่วนในกรรม หรือการกระทำนั้นๆ และสิ่งที่เจ้ากรรมนายเวร ต้องการจากเราก็คือ การชดใช้ ซึ่งเขาก็จะพยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อที่จะให้เรา ได้ชดใช้กับการกระทำนั้น หรืออย่างน้อย ถ้าเราไม่ได้มีส่วนร่วม ในการก่อกรรมโดยตรง ก็ต้องมีส่วนร่วม ในการชดใช้กรรมดังกล่าว โดยทางอ้อม
ซึ่งเจ้ากรรมนายเวรนั้น จะมีอยู่ ๒ ประเภท ก็คือ ๑.เจ้ากรรมนายเวรที่ยังมีชีวิต และ ๒.เจ้ากรรมนายเวรที่ไม่มีชีวิต และตัวเราเองนั้น ก็ต้องแยกให้ออก เพื่อจะได้เข้าใจว่า เจ้ากรรมนายเวร ที่แท้จริงของเรานั้น ว่าท่านเป็นใคร เพราะเรา จะได้ไปทำการแก้ไข และขออโหสิกรรม เพราะไม่ให้กรรมเก่านั้น ส่งผลต่อเราอีก หรือเพื่อให้เบาบางลง แล้วกรรมใหม่ ที่เรากำลังจะได้สร้างขึ้นนั้น ก็เป็นกรรมที่ดี และเป็นกุศล ไม่ได้ก่อขึ้น เพื่อให้เจ้ากรรมนายเวรเดือดร้อน อีกทั้งการสร้างกรรมใหม่นี้ จะเป็นการคลายกรรมเก่า ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งเจ้ากรรมนายเวรที่ยังมีชีวิตและไม่มีชีวิต มีดังต่อไปนี้ครับ
๑. เจ้ากรรมนายเวรที่ยังมีชีวิต เจ้ากรรมนายเวรประเภทนี้ เราสามารถเห็นได้ ในภพชาติปัจจุบัน ซึ่งเป็นได้ทั้งคน สัตว์ หรือสิ่งมีชีวิต ที่เราได้พบเจอ และเราเอง ก็เคยได้ก่อกรรม หรือมีส่วนร่วมในการกระทำนั้น จนทำให้เจ้ากรรมนายเวร เกิดความไม่พอใจ ซึ่งเจ้ากรรมนายเวรที่มีชีวิตนั้น เป็นได้ทั้ง พ่อ แม่ ญาติพี่น้องของตัวเอง หรือเพื่อนฝูงที่ทำงาน เป็นต้น ซึ่งจะต้องมีเหตุการณ์ใดๆ มาเกี่ยวข้อง จนทำให้เกิดความขุ่นข้องหมองใจกัน หรือเกิดความทุกข์ ในรูปแบบใดแบบหนึ่ง ทั้งทางกาย ทางวาจา หรือทางใจ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็คือ การเกี่ยวพันกัน ของความเป็นเจ้ากรรมนายเวรอย่างหนึ่ง
๒. เจ้ากรรมนายเวรแบบที่ไม่มีชีวิต เจ้ากรรมนายเวรประเภทนี้ เราไม่อาจจับต้องและพิสูจน์ให้เห็นกันได้ แบบเจ้ากรรมนายเวรที่มีชีวิต ซึ่งเปรียบไปก็เหมือนกับ กระแสไฟฟ้าที่มองไม่เห็น แต่สามารถทำให้หลอดไฟสว่างได้ หรือเป็นได้เหมือนกับคลื่นวิทยุ ที่มองไม่เห็น ไม่มีสี ไม่มีรูป แต่ทำให้วิทยุเกิดเสียงได้ ซึ่งเจ้ากรรมนายเวรประเภทนี้ จะเป็นผู้คอยสกัดกั้นความสุข หรือความสำเร็จของเรา ในทุกวิถีทาง จนกว่าเรา จะได้ชดใช้หนี้เขาให้หมดสิ้น เขาจึงจะยอมปลดปล่อยเรา ให้เป็นสุข หรือเป็นอิสระ ซึ่งเขาเหล่านั้น เป็นได้ทั้งเหล่าภูตผี ปีศาจ หรือวิญญาณที่ตามอาฆาต เป็นต้น
วิธีขออโหสิกรรมจากเจ้ากรรมนายเวรนั้น หลังจากที่เราทำบุญแล้ว ก็ให้รีบอุทิศบุญให้คนอื่นไปด้วย ทั้งคนทำ ทั้งคนรับ ก็ได้เหมือนกันหมด เหมือนจุดเทียนไว้เล่มหนึ่ง แล้วก็ต่อเทียนกันไป คนให้บุญก็ไม่มีหมด และก็เป็นแสงสว่างให้คนอื่นด้วย ซึ่งผู้ที่เราควรจะส่งบุญไปให้ ก็ได้แก่ พ่อแม่ ญาติพี่น้อง ครูบาอาจารย์ เหล่าเทพเทวดา เหล่าเปรต ภูตผีปิศาจ เจ้ากรรมนายเวร และสุดท้ายก็คือ สัตว์โลกทั้งหลาย ที่เราไม่อาจกล่าวถึงได้หมด ให้ได้รับบุญไปด้วย ส่วนเจ้ากรรมนายเวรนั้น ก็ให้เอ่ยชื่อ หรือนึกถึงเขา แล้วส่งก็บุญไปให้ ด้วยคำว่า
“อิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เวรี”
ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวงจงมีความสุข”
เมื่อเราส่งบุญเสร็จแล้ว ก็ให้ตั้งจิตอธิษฐาน หรือ กล่าวคำอธิษฐานอโหสิกรรม ให้กับเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายว่า
ข้าพเจ้า (เอ่ยชื่อของเราเอง) ขออโหสิกรรม กรรมใดที่ทำให้แก่ผู้ใด ในชาติใดๆ ก็ตาม ขอให้เจ้ากรรมนายเวร จงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า อย่าได้จองเวร จองกรรมกันต่อไปอีกเลย หรือแม้แต่กรรม ที่ใครๆ ทำแก่ข้าพเจ้า ก็ขออโหสิกรรมให้ทั้งสิ้น ขอยกถวายพระพุทธเจ้าเป็นอภัยทาน เพื่อที่จะได้ไม่มีเวร มีกรรมกันต่อไป ด้วยอานิสงส์แห่งอภัยทานนี้ ขอให้ข้าพเจ้า ครอบครัวบุตรหลาน ตลอดจนวงศาคณาญาติ และผู้มีอุปการะคุณของข้าพเจ้า มีความสุข ความเจริญ ปฏิบัติแต่สิ่งที่ดี และสิ่งที่ชอบด้วยเทอญ
ขออนุโมทนาบุญ และกราบขอบพระคุณครูบาอาจารย์ ทุกท่าน ที่ให้คติธรรม และข้อคิด ในการดำเนินชีวิต และขออนุโมทนาบุญ กับทุกท่านที่มีส่วนร่วม ในการจัดทำคลิบนี้ และรับชมคลิบนี้ สาธุครับ
หลายๆ ท่าน คงจะมีคำถามในใจว่า เจ้ากรรมนายเวรนั้นคืออะไร ซึ่งเจ้ากรรมนายเวรที่ว่านี้ ก็คือ คน หรือสัตว์ หรือสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย รวมไปถึง เจ้ากรรมนายเวร ที่มองไม่เห็น ที่เราได้ไปก่อกรรมจนทำให้เขา เกิดความไม่พอใจ หรือเกิดความอาฆาตขึ้นมา เพราะว่าเขา อาจจะมีเหตุต้องสูญเสีย ในสิ่งที่รัก หรือสิ่งที่ชอบ ด้วยการกระทำของเรา และการกระทำทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นการกระทำทางตรง เช่น ด้วยทางกาย ทางวาจา ทางใจ หรือแม้แต่เรา อาจเป็นผู้มีส่วนในกรรม หรือการกระทำนั้นๆ และสิ่งที่เจ้ากรรมนายเวร ต้องการจากเราก็คือ การชดใช้ ซึ่งเขาก็จะพยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อที่จะให้เรา ได้ชดใช้กับการกระทำนั้น หรืออย่างน้อย ถ้าเราไม่ได้มีส่วนร่วม ในการก่อกรรมโดยตรง ก็ต้องมีส่วนร่วม ในการชดใช้กรรมดังกล่าว โดยทางอ้อม
ซึ่งเจ้ากรรมนายเวรนั้น จะมีอยู่ ๒ ประเภท ก็คือ ๑.เจ้ากรรมนายเวรที่ยังมีชีวิต และ ๒.เจ้ากรรมนายเวรที่ไม่มีชีวิต และตัวเราเองนั้น ก็ต้องแยกให้ออก เพื่อจะได้เข้าใจว่า เจ้ากรรมนายเวร ที่แท้จริงของเรานั้น ว่าท่านเป็นใคร เพราะเรา จะได้ไปทำการแก้ไข และขออโหสิกรรม เพราะไม่ให้กรรมเก่านั้น ส่งผลต่อเราอีก หรือเพื่อให้เบาบางลง แล้วกรรมใหม่ ที่เรากำลังจะได้สร้างขึ้นนั้น ก็เป็นกรรมที่ดี และเป็นกุศล ไม่ได้ก่อขึ้น เพื่อให้เจ้ากรรมนายเวรเดือดร้อน อีกทั้งการสร้างกรรมใหม่นี้ จะเป็นการคลายกรรมเก่า ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งเจ้ากรรมนายเวรที่ยังมีชีวิตและไม่มีชีวิต มีดังต่อไปนี้ครับ
๑. เจ้ากรรมนายเวรที่ยังมีชีวิต เจ้ากรรมนายเวรประเภทนี้ เราสามารถเห็นได้ ในภพชาติปัจจุบัน ซึ่งเป็นได้ทั้งคน สัตว์ หรือสิ่งมีชีวิต ที่เราได้พบเจอ และเราเอง ก็เคยได้ก่อกรรม หรือมีส่วนร่วมในการกระทำนั้น จนทำให้เจ้ากรรมนายเวร เกิดความไม่พอใจ ซึ่งเจ้ากรรมนายเวรที่มีชีวิตนั้น เป็นได้ทั้ง พ่อ แม่ ญาติพี่น้องของตัวเอง หรือเพื่อนฝูงที่ทำงาน เป็นต้น ซึ่งจะต้องมีเหตุการณ์ใดๆ มาเกี่ยวข้อง จนทำให้เกิดความขุ่นข้องหมองใจกัน หรือเกิดความทุกข์ ในรูปแบบใดแบบหนึ่ง ทั้งทางกาย ทางวาจา หรือทางใจ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็คือ การเกี่ยวพันกัน ของความเป็นเจ้ากรรมนายเวรอย่างหนึ่ง
๒. เจ้ากรรมนายเวรแบบที่ไม่มีชีวิต เจ้ากรรมนายเวรประเภทนี้ เราไม่อาจจับต้องและพิสูจน์ให้เห็นกันได้ แบบเจ้ากรรมนายเวรที่มีชีวิต ซึ่งเปรียบไปก็เหมือนกับ กระแสไฟฟ้าที่มองไม่เห็น แต่สามารถทำให้หลอดไฟสว่างได้ หรือเป็นได้เหมือนกับคลื่นวิทยุ ที่มองไม่เห็น ไม่มีสี ไม่มีรูป แต่ทำให้วิทยุเกิดเสียงได้ ซึ่งเจ้ากรรมนายเวรประเภทนี้ จะเป็นผู้คอยสกัดกั้นความสุข หรือความสำเร็จของเรา ในทุกวิถีทาง จนกว่าเรา จะได้ชดใช้หนี้เขาให้หมดสิ้น เขาจึงจะยอมปลดปล่อยเรา ให้เป็นสุข หรือเป็นอิสระ ซึ่งเขาเหล่านั้น เป็นได้ทั้งเหล่าภูตผี ปีศาจ หรือวิญญาณที่ตามอาฆาต เป็นต้น
วิธีขออโหสิกรรมจากเจ้ากรรมนายเวรนั้น หลังจากที่เราทำบุญแล้ว ก็ให้รีบอุทิศบุญให้คนอื่นไปด้วย ทั้งคนทำ ทั้งคนรับ ก็ได้เหมือนกันหมด เหมือนจุดเทียนไว้เล่มหนึ่ง แล้วก็ต่อเทียนกันไป คนให้บุญก็ไม่มีหมด และก็เป็นแสงสว่างให้คนอื่นด้วย ซึ่งผู้ที่เราควรจะส่งบุญไปให้ ก็ได้แก่ พ่อแม่ ญาติพี่น้อง ครูบาอาจารย์ เหล่าเทพเทวดา เหล่าเปรต ภูตผีปิศาจ เจ้ากรรมนายเวร และสุดท้ายก็คือ สัตว์โลกทั้งหลาย ที่เราไม่อาจกล่าวถึงได้หมด ให้ได้รับบุญไปด้วย ส่วนเจ้ากรรมนายเวรนั้น ก็ให้เอ่ยชื่อ หรือนึกถึงเขา แล้วส่งก็บุญไปให้ ด้วยคำว่า
“อิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เวรี”
ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวงจงมีความสุข”
เมื่อเราส่งบุญเสร็จแล้ว ก็ให้ตั้งจิตอธิษฐาน หรือ กล่าวคำอธิษฐานอโหสิกรรม ให้กับเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายว่า
ข้าพเจ้า (เอ่ยชื่อของเราเอง) ขออโหสิกรรม กรรมใดที่ทำให้แก่ผู้ใด ในชาติใดๆ ก็ตาม ขอให้เจ้ากรรมนายเวร จงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า อย่าได้จองเวร จองกรรมกันต่อไปอีกเลย หรือแม้แต่กรรม ที่ใครๆ ทำแก่ข้าพเจ้า ก็ขออโหสิกรรมให้ทั้งสิ้น ขอยกถวายพระพุทธเจ้าเป็นอภัยทาน เพื่อที่จะได้ไม่มีเวร มีกรรมกันต่อไป ด้วยอานิสงส์แห่งอภัยทานนี้ ขอให้ข้าพเจ้า ครอบครัวบุตรหลาน ตลอดจนวงศาคณาญาติ และผู้มีอุปการะคุณของข้าพเจ้า มีความสุข ความเจริญ ปฏิบัติแต่สิ่งที่ดี และสิ่งที่ชอบด้วยเทอญ
ขออนุโมทนาบุญ และกราบขอบพระคุณครูบาอาจารย์ ทุกท่าน ที่ให้คติธรรม และข้อคิด ในการดำเนินชีวิต และขออนุโมทนาบุญ กับทุกท่านที่มีส่วนร่วม ในการจัดทำคลิบนี้ และรับชมคลิบนี้ สาธุครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น