สร้างกำลังใจให้ตัวเอง ในวันที่ท้อแท้และสิ้นหวัง

สวัสดีครับคุณผู้ชม คลิบนี้ผมมีข้อคิดเตือนสติ ในสร้างกำลังใจให้ตัวเอง ในวันที่ท้อแท้และสิ้นหวัง มาฝากครับ



ในบางช่วง บางเวลาในชีวิตของคนเรานั้น จะต้องมีสักครั้ง ที่เรารู้สึก อยากจะล้มเลิกทุกสิ่งทุกอย่าง และก็ลืมมันไปให้หมด บางครั้ง ที่เราก็รู้สึกเหนื่อย หมดกำลังใจ และขุ่นเคือง กับสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลก จนรู้สึกว่า อยากจะหายไปเสีย ให้รู้แล้วรู้รอด หลายๆ คน อาจจะเคย รู้สึกแบบนี้มาก่อน เพราะฉะนั้น เราจงปล่อยให้ความรู้สึกเหล่านี้ แล่นผ่านตัวเราไป อย่าจมปลักอยู่กับมัน แม้ว่า การยอมแพ้ จะเย้ายวนใจเราแค่ไหน เราก็ควรพยายามมองในด้านดี และพยายามดึงตัวเอง ให้ลุกขึ้นมาอีกครั้ง แต่เมื่อไหร่ก็ตาม ที่เรารู้สึกไม่ไหวจริงๆ ก็ลองหาทางเรียกกำลังใจของตัวเอง เรามาดูว่า คำคมสร้างกำลังใจ ในวันที่ท้อแท้และสิ้นหวัง จะให้ข้อคิดและให้กำลังใจอะไรเราบ้าง



๑. อย่ายอมแพ้ กับสิ่งที่เรามุ่งมั่น และตั้งความหวังไว้ แม้การรอคอย อาจจะเป็นเรื่องยาก แต่การที่ จะมานั่งเสียใจในภายหลัง กลับเป็นเรื่อง ที่ยากยิ่งกว่า ฉะนั้น สิ่งที่สำคัญ คือห้ามยอมแพ้ กับตัวเองเด็ดขาด เพราะท้ายที่สุดแล้ว ตัวเราก็จะเหลือแค่ตัวเองเท่านั้น และมันก็คือ สิ่งที่สำคัญที่สุด จงไล่ตามความฝัน สรรสร้างความสุขขึ้นด้วยตัวเราเอง และอย่าหยุดพยายาม ทำเพื่อตนเองด้วย เพราะเส้นทางข้างหน้า มันมักจะดูท้าทายเสมอ แต่ถ้าหากเรา ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ผลลัพธ์ที่ได้มา ก็จะยิ่งใหญ่สมราคาเช่นกัน

๒. อย่ายอมให้สิ่งเก่าๆ มาทำร้ายจิตใจเราอีกต่อไป เพราะชีวิตของคนเรานั้น มันสั้นเกินกว่า จะใช้ชีวิตแบบนั้นได้ หากรู้สึกว่า มีสิ่งใดในชีวิตของเรา ที่ไม่เป็นไป ตามที่คาดไว้ ก็จงถอยตัวออกให้ห่าง หรือไม่ก็ พยายามเปลี่ยนแปลงมันแทน การครุ่นคิด ถึงแต่สิ่งเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า มีแต่จะสร้างความตึงเครียด โดยไม่จำเป็น เมื่อไหร่ก็ตาม ที่เราท้อแท้ ให้มองหาสิ่ง ที่เราสามารถ ตัดทิ้งออกไปจากชีวิต ได้เป็นอันดับแรก จากนั้น เมื่อเราสามารถละทิ้ง สิ่งแย่ๆ ออกไปได้ เราก็จะได้พบหนทางใหม่ ในการก้าวเดินต่อไป

๓. จำเอาไว้ว่า ในบางครั้ง การไม่ได้มาซึ่งสิ่งปรารถนา ก็คือโชคที่หาได้ยากอย่างยิ่ง ในบางครั้ง แทนที่เรา จะได้มาซึ่งสิ่งที่เราต้องการ ก็มักจะได้ สิ่งที่ไม่จำเป็นมาแทน ฉะนั้นจงจำเอาไว้ว่า จักรวาลมักจะให้ในสิ่งที่ดีที่สุด แก่เราเสมอ ดังนั้น เมื่อไหร่ก็ตาม ที่เราไม่ได้รับ ในสิ่งที่คิดว่าตัวเองต้องการ นั่นหมายความว่า เรากำลังจะได้ สิ่งที่ดียิ่งกว่า มาแทน

๔. ยิ่งเราอายุมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งตระหนักว่า ไม่มีใครรู้ว่า เรากำลังจะทำอะไร คนอื่น ก็เพียงแสร้งทำเป็นว่า รู้เท่านั้นเอง ฉะนั้น อย่าเข้มงวด กับตัวเองมากจนเกินไป แม้ว่า จะทำผิดพลาดนับครั้งไม่ถ้วน จนทำให้รู้สึกว่า ตัวเองกำลังหลงทาง เพราะไม่ใช่เราคนเดียว ที่เป็นแบบนั้น เพียงแค่เรา ต้องตัดสินใจให้ดีที่สุด ในชั่วขณะนั้น และพยายาม อย่ายึดติดอยู่ กับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ จนเกินไป ยิ่งสามารถเรียนรู้ ที่จะปล่อยตัวเอง ให้ไหลไป ตามสถานการณ์ได้ดีเท่าไหร่ เราก็จะยิ่ง มีความสุขมากขึ้นเท่านั้น

๕. อันที่จริงแล้ว เราจะต้องขอบคุณ อย่างสุดซึ้ง ในช่วงเวลาที่มีสิ่งใด ซึ่งไม่ได้เป็นไปตาม ที่เราคาดหวังเอาไว้ ไม่ใช่ทุกอย่าง ที่จะเป็นไปตามแผนที่เราวางเอาไว้ แต่มัน ก็ยังเกิดประโยชน์ต่อเรา ถ้าเลือก ที่จะมองสิ่งที่ดี ที่ได้สัมผัสมา เมื่อใดก็ตาม ที่เรารู้สึกหมดแรง ก็จงหันกลับไปมองว่า เรามาได้ไกลแค่ไหนแล้ว พร้อมทั้งก้าวไปข้างหน้า เดินต่อไปให้ได้

๖.จงบอกให้โลกได้รับรู้ ในสิ่งที่เราต้องการ แทนที่เราจะบอก ในสิ่งที่ไม่ได้ต้องการ ความรู้สึกท้อแท้ อาจเป็นเพราะเรา ไม่รู้สึกพอใจ ในชีวิตที่เป็นอยู่ ฉะนั้น ให้กลับมาดู วิธีที่เราพูดคุยกับตัวเองว่า มันเป็นไปในแง่บวก หรือแง่ลบ เราอาจจะแค่ต้องการ ปรับเปลี่ยนความคิด และวิธีการสื่อสาร กับตัวเอง เพื่อให้พบเจอ กับเรื่องที่ดี มากขึ้น ลองหันมาทบทวนดูตัวเอง

๗.จงใช้พลังที่เรามี ในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ไม่ใช่เพื่อบ่อนทำลาย คนเรานั้น สามารถใช้ พลังที่มี ในการพัฒนาตนเอง และผู้อื่นได้ หรือจะใช้มัน ในการทำลายก็ได้เช่นกัน ดังนั้น เราจงเลือกให้ดี เพราะหนึ่งในทางเลือกนั้น จะนำเรา ไปสู่เส้นทาง แห่งความสำเร็จที่วาดฝันไว้ แต่ในอีกทาง ก็จะนำเราไปสู่ความทุกข์ ความเฉื่อยชา และไร้แรงบันดาลใจ

๘. จงอย่าเสียใจกับอดีต เพราะมันได้ผ่านไปแล้ว และอย่ากังวล กับอนาคต เพราะมันยังมาไม่ถึง จงใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน แล้วทำมันให้งดงาม และทำมันให้ดี คนเรานั้น ต่างก็ไม่สามารถ ควบคุมอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคตได้ แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เรา พอจะทำได้ก็คือ ควบคุมความคิด ของตัวเอง และมีหนทาง เพียงหนึ่งเดียว ที่จะนำเราไปสู่ ความสงบสุขได้ ก็คือ การอยู่กับปัจจุบัน

๙. การที่เรา พูดถึงแต่ปัญหาของตัวเอง เป็นเสมือนการเสพติด กับสิ่งแย่ๆ แบบหนึ่ง จงเอานิสัยแบบนี้ทิ้งไป แล้วเริ่มใหม่ ด้วยการพูดถึง ในสิ่งที่ดี กับชีวิตของเราแทนจะดีกว่า เมื่อไหร่ก็ตาม ที่เรารู้สึก อยากจะยอมแพ้ ก็ให้ลองสังเกต ในสิ่งที่ตัวเอง พูดออกมาบ่อยที่สุด เพราะบางครั้ง ตัวเรานั้นเอง คือศัตรูที่ร้ายกาจที่สุด ของตัวเราเอง หากเราต้องการ ที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่ ก็ให้มองโลกในแง่ดียิ่งขึ้น ลองเริ่มพูดถึง ในสิ่งที่ดี ที่ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้น และมีพลัง มีกำลังใจให้มากขึ้น

๑๐.ไม่ว่าเราจะเป็นใคร ไม่ว่าเราจะทำอะไรมา และไม่ว่าเราจะมาจากที่ไหน เราย่อมสามารถ กลายเป็นเรา ในแบบที่ดีกว่าเดิมได้เสมอ ฉะนั้น อย่ายอมรับ ในความธรรมดาสามัญ โดยเฉพาะในตัวของเราเอง เราอาจจะกำลังผ่าน ช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่อย่ายอมให้ตัวเอง หยุดอยู่เพียงแค่นั้น เวลาที่อยากยอมแพ้นั้นเอง คือจุดที่จะผลักดัน ให้เราสามารถ เปลี่ยนแปลงตัวเองได้ อย่างทรงพลังที่สุด เพราะบางครั้ง กว่าที่จะรู้ว่า ตัวเองต้องการอะไรในชีวิต หรือสามารถ เรียกแรงบันดาลใจ กลับคืนมา ก่อนที่ จะก้าวต่อไปได้ เราอาจจะต้องสูญเสีย ทุกสิ่งทุกอย่างไป รวมถึงตัวเราเองด้วยเช่นกัน

๑๑. สิ่งที่งดงาม สิ่งที่ดีมากมายจะเกิดขึ้น ก็เมื่อตอนที่เรา ได้ถอยออกมาจาก ความคิดในแง่ลบ ความคิดในเชิงลบ สามารถเกิดจากอะไรก็ได้ แต่โดยมากแล้ว มันมักจะมาจาก ภายในจิตใจของเราทั้งสิ้น เมื่อเรา พยายามคิดในแง่บวก และรักษาผู้คน ที่มีพลังบวกในชีวิตเอาไว้ เมื่อนั้น ชีวิตของเรา ก็จะพัฒนาไป ในทางบวกเช่นเดียวกัน ครับ

ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกท่าน ต่อสู้กับชีวิตต่อไป พบเจอแต่สิ่งที่ดี เรื่องที่ดี มีความสุขทุกท่าน ครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไตรลักษณ์ 3 ประการ

บาปกรรมหนัก 3 ข้อ ของการเป็นชู้ คบชู้และนอกใจ

กรรมของคน ชอบใส่ร้ายป้ายสี และนินทาผู้อื่น

หนทาง 7 สาย กรรมดีกรรมชั่ว ชีวิตหลังความตาย

อาฆาตแรง ชอบด่าว่า สาปแช่งคนอื่น จะได้รับผลกรรมอะไร

พุทธประวัติ EP.4 การจุติจากดุสิตลงสู่ครรภ์ เกิดแสงสว่าง และแผ่นดินไหว เนื่องด้วยการจุติ

ผ้าเปลือกปอ (เป็นคนทุศีล มีความเป็นอยู่เลวทราม)

พูดโกหก ชอบด่าว่า พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ กรรมหนักแค่ไหน

วันอาสาฬหบูชา มีความสำคัญอย่างไร

เปรตรับผลบุญได้ การสงเคราะห์ผู้ล่วงลับไปแล้ว