เคล็ดลับการใช้ชีวิตคู่ ให้มีความสุขความเจริญ
ครูบาอาจารย์ ท่านให้ข้อคิดเตือนสติว่า เรื่องของความรักนั้น มักจะเกิดขึ้นกับเราได้ตลอดเวลา แต่เมื่อมีความรักเกิดขึ้นแล้ว เราก็ควรจะมีศิลปะ ในการจัดการกับความรักอย่างถูกต้อง ซึ่งพระพุทธองค์ ท่านก็ทรงเตือน ถึงการมีสติยั้งคิด ในการใช้ชีวิตคู่ ให้หมั่นปฏิบัติธรรมอยู่เสมอ เพราะคู่รักที่อยู่ด้วยกันแล้ว ก็ไม่ควรประมาท ในการดำเนินชีวิต แต่ควรหมั่นทำความดี และพยายามฝึกฝนจิตใจ ให้มีความบริสุทธิ์อยู่เสมอ เพราะการมีสติรู้เท่าทันโลก รู้ทันจิตใจของตนเองนั้น เป็นสิ่งเราควรจะปฏิบัติ และเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ซึ่งการที่เราจะมีความสุข จากความรักได้นั้น เราทั้งคู่ก็ต้องหมั่น สร้างบุญสร้างกุศล เพราะหากคู่รักมีศรัทธา มีศีล มีจาคะ และมีปัญญา ที่อยู่ในระดับสูง เสมอกันแล้ว ชีวิตคู่ก็ย่อมจะมีความสุขความเจริญ และนำมาซึ่งความร่ำรวย ซึ่งหลักปฏิบัติ ในการใช้ชีวิตคู่ ท่านว่ามีดังต่อไปนี้
1. การมีปัญญาเสมอกัน ซึ่งปัญญาในทางโลก ก็คือ ความรู้ นหมายถึง ทั้งสองคน สามารถที่จะคุยกันรู้เรื่อง หรือรู้เท่าทันกัน ส่วนในทางธรรม คือ การเห็นธรรมชาติตามความเป็นจริง ที่เท่าเทียมกัน เพราะผู้ที่มีปัญญาเสมอกันนั้น ย่อมจะมีความเห็น ความเข้าใจ ไปในทิศทางเดียวกัน หรือใกล้เคียงกัน อย่างเช่น พูดกันด้วยเหตุผล ไม่ใช่พูดกันด้วยอารมณ์ เพราะหากพูดกันด้วยอารมณ์แล้ว ก็คงจะเข้าใจกันยาก หรืออีกฝ่ายคิดก่อนทำ แต่อีกฝ่ายทำอะไร โดยปราศจากการยั้งคิด แบบนี้ทั้งคู่ ก็คงจะทะเลาะกันตลอดเวลา แต่หากทั้งคู่ ต่างมีสติ และไตร่ตรองยั้งคิด หมั่นเรียนรู้ ทั้งทางโลกและทางธรรม ก็ย่อมจะทำให้ทั้งสองคน มีสติปัญญาที่ดี เป็นคู่รัก ที่เกื้อหนุนให้กันและกันได้ ชีวิตคู่ ก็จะทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง และมีความสุข ความร่ำรวย
2. การมีศรัทธา ไปในทางเดียวกัน ศรัทธา ก็คือความเชื่อ อย่างเช่น การเชื่อถือ ในศาสนาเหมือนกัน หรือการเชื่อ ในเรื่องกรรมที่เหมือนกัน หรือมีความเชื่อว่า ทำดีจะต้องได้ดี และเชื่อมั่นในแนวทาง การดำรงชีวิต ในรูปแบบเดียวกัน เพราะหากทั้งคู่ มีความศรัทธาไม่ตรงกันแล้ว ก็จะทำให้มีความคิด หรือคำพูด และการกระทำ ที่แตกต่างกันออกไป คือ อาจจะทำให้ทั้งสองคน พูดคุยเรื่องเดียวกันไม่รู้เรื่อง จนทำให้ความสัมพันธ์นั้น แตกร้าวไปได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว คงจะไม่มีใคร ที่จะเชื่อเหมือนกันในทุกเรื่อง แต่ก็ควรจะไป ในทางเดียวกันให้มากที่สุด ส่วนเรื่องเล็กน้อย ที่ไม่ตรงกันบ้าง ก็ถือว่า เป็นเรื่องธรรมดา ของการใช้ชีวิตคู่ แต่ถ้าหากมีความเข้าใจตรงกัน และไม่ขัดแย้งกันในเรื่องที่สำคัญ ก็ถือว่า เป็นผู้มีศรัทธาที่ตรงกัน เมื่ออยู่ด้วยกัน ก็ย่อมจะมีแต่ความสุขความเจริญ
3. การมีศีล ที่เหมือนกัน เรื่องของศีลนี้ เปรียบเสมือนเครื่องหอมทางใจ ที่ช่วยยกระดับจิตใจ ของผู้ถือ ให้มีคุณภาพ และเป็นปกติสุข ซึ่งคู่ครองก็ควรจะมีศีล ในระดับเดียวกัน ไม่ว่าจะมาก หรือน้อยก็ตาม อย่างเช่น มีความคิด หรืองดเว้น การทำผิด แบบเดียวกัน เพราะหากไม่เหมือนกันแล้ว การใช้ชีวิตคู่ ก็คงจะลำบาก ซึ่งจะต้องทน ความเป็นอยู่ของอีกฝ่าย ที่คอยขัดแย้งกับตนเอง อยู่ตลอดเวลา อย่างเช่น การอยู่ร่วม กับคนที่มีความเจ้าชู้ เจ้าเล่ห์ หรือชอบดื่มสุรายาเมา หลงอบายมุข หรือสำส่อน นอนกับใครไม่เลือกหน้า แบบนี้ มันก็ยาก ที่คู่รัก ที่ไม่มีพฤติกรรมเหล่านั้น จะอยู่ร่วมได้ แต่ถ้าหากคู่รักทั้งสอง เป็นคนที่ใจคอซื่อสัตว์ และมีความรักที่มั่นต่อกัน เป็นคู่ผัวเดียว เมียเดียว และมีศีลที่บริสุทธิ์ ดีงามเหมือนกัน คนทั้งคู่ ก็ย่อมจะอยู่ด้วยกัน ได้อย่างมีความสุข และมีความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต
4. การมีจาคะเสมอกัน คำว่าจาคะ ก็คือ การสละสิ่งของ และความสุขส่วนตัว เพื่อประโยชน์สุขแก่ผู้อื่น และรวมไปถึงการสละ หรือละทิ้งกิเลส ละความโลภ ความเห็นแก่ตัว หรือความตระหนี่ ความคับแคบในใจ และการเลิกละนิสัย ความประพฤติที่ไม่ดี ที่ทำให้เกิดความเสียหาย จนนำไปสู่การทะเลาะเบาะแว้งกัน ท่านว่า คู่ครองที่มีจาคะเสมอกัน จะมีการแบ่งปัน ชอบช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ และจะเป็นผู้ให้ ซึ่งกันและกันด้วย ทั้งสองจะไม่ตระหนี่ถี่เหนียวต่อกัน แต่หากทั้งคู่ มีจาคะที่ไม่เสมอกัน อย่างเช่น อีกฝ่ายจ้องจะเอาเปรียบอยู่เสมอ และไม่ชอบทำบุญร่วมกัน หรือไม่ชอบบริจาคอะไรทั้งสิ้น ปล่อยให้อีกฝ่าย ทำบุญอยู่คนเดียว แบบนี้ ก็ยาก ที่คนทั้งสอง จะอยู่ด้วยกันได้อย่างยืดยาว แต่หากคู่รัก มีจาคะร่วมกัน รู้จักสละสิ่งของ เพื่อประโยชน์สุขของผู้อื่น ก็ยิ่งจะทำให้ความรักนั้นแน่นแฟ้น และมีความสุขมากขึ้นตามไปด้วย เพราะความยินดีร่วมกัน จะทำให้ชีวิตคู่เป็นที่พึ่ง ให้กันและกันได้ และจะประคับประคองกัน นำไปสู่ความเจริญก้าวหน้า ไปสู่ความสำเร็จด้วยกัน ยิ่งถ้าชีวิตคู่ที่มีจาคะสูงเท่าเทียมกัน ก็ย่อมจะมีความสุข ความเจริญ มากยิ่งขึ้นไปอีก
ท่านว่า การรักกันอย่างมีความสุข ก็คือ การที่คู่รัก มีความหวัง ความฝัน และกำลังใจ รวมถึงการมีศรัทธา ในสิ่งที่ดีงามร่วมกัน ซึ่งจะส่งผลทำให้ความรัก มีพลานุภาพ ที่รุนแรงมากขึ้น เพราะจะทำให้คู่รัก มีความหวัง มีความฝัน มีกำลังใจ และมีแรงศรัทธา ในการสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ร่วมกัน เมื่อพบเจอกับปัญหาต่างๆ ก็ช่วยกันแก้ปัญหา ช่วยกันฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ให้ได้ และที่สำคัญทั้งคู่ จะต้องมีธรรมะในหัวใจ หมั่นฝึกฝน หลักธรรมอยู่เสมอ และควรมองโลก มองชีวิต ในสิ่งที่เป็นแง่ ของความเป็นจริง เพราะจะส่งเสริมทำให้ชีวิตคู่ มีความสุข ความสงบ และมีความเจริญรุ่งเรือง ครับ
ขออนุโมทนาบุญ และกราบขอบพระคุณครูบาอาจารย์ทุกท่าน ที่ให้คติธรรม และข้อคิดในการดำเนินชีวิต และขออนุโมทนาบุญกับทุกท่าน ที่มีส่วนร่วมในการจัดทำคลิบนี้ และรับชมคลิบนี้ สาธุครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น