ข้อคิดสอนใจ สำหรับคนที่มีความรัก
สวัสดีครับ วันนี้ผมมีคติธรรมและข้อคิดสอนใจ สำหรับคนที่มีความรัก มาฝากครับ
ความรักนั้น เป็นต้นเหตุแห่งความทุกข์ เป็นที่มาของความผิดหวัง เมื่อไม่ได้บุคคล อันเป็นที่รักมาครอง เป็นที่มาของความคร่ำครวญ เมื่อพลัดพราก จากบุคคลอันเป็นที่รัก เป็นที่มา ของความอึดอัด เมื่อได้อยู่ร่วมกับ คนที่เข้ากับเราไม่ได้เต็มร้อย วันนี้ผมจึงเอาคติธรรม และข้อคิด จากครูบาอาจารย์ มาให้รับชม เผื่อจะเป็นประโยชน์ และเป็นข้อคิดสอนใจ สำหรับคนที่มีความรัก เพราะการสูญเสียนั้น เป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักร ไม่มีอะไรที่จะอยู่กับเราได้ตลอดไป ซึ่งธรรมชาตินั้น จะบังคับให้เราทิ้งทุกคน แม้ว่าเรา จะเต็มใจ หรือไม่เต็มใจก็ตาม เรามาดูกันครับว่า ข้อคิดสอนใจ ในเรื่องของความรัก ที่ไว้เตือนสติตัวเรานั้น จะมีอะไรบ้าง ไปชมกันเลยครับ
๑. เราควรสร้างความเชื่อมั่น ให้เกิดขึ้นในใจว่า เขาก็รักเรามาก เหมือนอย่างที่เรา ก็รักเขามากเช่นกันเขาคงจะมีเหตุผล ที่เขาจะต้องทิ้งเราไป
๒. จงอย่าพยายาม จ้องจับผิด หรือหาเรื่อง ในสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ เพราะคนเรา ก็อาจจะมี ทำผิดกันได้ทั้งนั้น ไม่มีใคร ที่ไม่เคยทำผิด ๓. ยอมรับความจริงว่า ความเบื่อหน่าย ความเหนื่อย คลายรัก ความเย็นชา หรือไม่แคร์เท่าที่ควร ก็อาจจะเกิดขึ้นได้เสมอ กับทุกๆ คน
๔. จงควบคุม ความรู้สึกของเรา ให้อยู่ในอาการปกติ อย่าให้ต้องเสียใจมาก อย่าได้ไปคิดมาก หรือ อย่าหวาดระแวงมากเกินไป และอย่าได้น้อยอกน้อยใจ ในโชคชะตาวาสนา ในเรื่องความรักให้มาก เราควรปล่อยๆ มันบ้าง อย่าจริงจัง มันมากจนเกินไป
๕. เราควรทำใจยอมรับ ความจริงที่ว่า เมื่อเวลา แห่งการเลิกรามาถึง อะไรก็หยุดไม่ได้ ห้ามไม่ได้ เหตุเพียงเล็กน้อย ก็เป็นจะเหตุใหญ่ และเหตุโตได้
๖. เมื่อเวลา แห่งการสูญเสียมาถึง เราก็จงอดทน และข่มใจไว้ กาลเวลานั้น อาจจะช่วยเยียวยาเราได้ ควรคิดแต่สิ่งที่ดีไว้ เช่น ไม่ใช่เราคนเดียว ที่ต้องมาเจอแบบนี้ คงจะมีหลายคน ที่เขาต้องเจอเรื่องนี้เช่นกัน
๗. จงสวดมนต์ นั่งสมาธิ เอาลมหายใจ เข้าออกเป็นเพื่อน หมั่นทำบุญ ปล่อยนกปล่อยปลา ให้อาหารสัตว์ หมั่นทำความดี ต่อสังคม ไปเยี่ยม ไปกราบผู้มีพระคุณ และระลึกถึงความดี ที่เขามีต่อเราให้มาก
๘. จงกล่าวคำว่าขอบคุณ และขอโทษ เมื่อเราคิดถึงเขาทุกครั้ง เพราะเขาคือ คนที่ดีที่สุดสำหรับเรา เขากำลังให้ปัญญาเรา เขากำลังสอนเราอยู่ จงสวดมนต์ภาวนา ให้เขาเสมอ เพื่อให้เขาและเรา อย่าได้มีเวรมีกรรม ต่อกันอีกในชาติต่อไป
๙. หากเรา จำเป็นที่จะต้องร้องไห้ ก็จงร้องไห้ อย่าคิดตำหนิตัวเองว่า ตนเป็นคนที่อ่อนแอ เป็นเด็ดขาด ให้ถือว่า เป็นเรื่องธรรมดา สำหรับทุกคน ที่ยังไม่บรรลุธรรม
๑๐. จงอย่าคิด ให้ร้ายแก่เขา และตัวเราเอง จงทำใจยอมรับ กับความจริงว่า ทุกสิ่งไม่มีอะไรแน่นอน ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ
๑๑. จงอย่าพยายามมองว่า ใครเป็นคนถูก หรือเป็นคนผิด ซึ่งไม่มีใครผิดทั้งสิ้น มันเป็นเรื่องกรรม เรื่องเหตุปัจจัย จงพยายาม ให้คะแนนเท่าๆ กัน
๑๒. จงดูความรู้สึก ที่เกิดขึ้นในใจลึกๆ ว่า ขณะนี้เรารู้สึกอย่างไร น้อยใจ แค้นใจ เสียใจ หรืออาลัยอาวรณ์ ดูให้ชัดๆ ดูอยู่เฉยๆ ดูมันไปเรื่อยๆ ดูแต่ละเรื่อง ดูให้เห็นความเคลื่อนไหว ความเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ จากเรื่องหนึ่ง ไปอีกเรื่องหนึ่ง ดูความเกิดดับ ความไม่มั่นคงของมัน ดูเข้าไปลึกๆ ให้เห็นตัวเรา ของเรา
๑๓. ข้อคิดที่จะช่วยให้เรา สบายใจได้ดีที่สุด นั้นก็คือ ควรคิดว่า เราคงหมดบุญต่อกันแล้ว เราคงทำบุญ มาด้วยกันแค่นี้ ถ้าชาติหน้าถ้ามีจริง อย่าได้เจอกันอีกเลย พอแล้ว สำหรับเรื่องความรัก มันก็แค่นั้นเอง จงไปหาสิ่งอื่น ที่มันมีประโยชน์มากกว่านี้ทำ จะดีกว่า
ในชีวิตของมนุษย์เรานั้น มีบทเรียนอยู่สองบทเรียน คือ หนึ่ง บทเรียนที่ยาก และสอง บทเรียนที่ง่าย
บทเรียนที่ง่าย ก็คือ ทำอะไรก็สมหวังไปเสียทุกอย่าง แต่พอสมหวังไปเสียทุกอย่าง มนุษย์ก็มักจะหลงตัวเอง พอหลงตัวเอง นั่นก็คือ ต้นทางของความผิดพลาด
ส่วนบทเรียนที่ยาก มักจะช่วยขัดเกลา ฝึกเราให้เข้มแข็ง เหมือนคนบางคน ที่เกิดมายากจน จึงเรียนรู้ที่จะต่อสู้ และเมื่อพยายามต่อสู้ ในที่สุดก็ประสบความสำเร็จ กลายเป็นคนมั่งคั่ง พรั่งพร้อมได้ คนจำนวนมาก ที่สามารถสร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมาได้ แล้วกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ของโลกนั้น เพราะเขาไม่ปฎิเสธบทเรียนที่ยาก แต่กลับถือว่า เป็นบทเรียน ที่เปรียบเสมือนหินลองทอง หรือเปรียบเสมือนหินลับมีด หรือเปรียบเสมือนกระดาษทราย ที่ทำหน้าที่ขัดสีฉวีวรรณ ให้ชีวิตของเราผุดผ่อง แวววาว ทอประกาย เจิดจรัสงดงามยิ่งขึ้น ฉะนั้นการที่เราล้มเหลว ในเรื่องของความรัก ในเรื่องชีวิตคู่ ขอให้ถือว่าความล้มเหลวนั้น คือบทเรียนแสนยาก ที่เป็นบันไดขั้นหนึ่ง ซึ่งเราต้องก้าวข้ามไป พอเรา ก้าวข้ามไปได้ ชีวิตของเรา ก็จะมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ขออนุโมทนาบุญ และกราบขอบพระคุณครูบาอาจารย์ ทุกท่าน ที่ให้คติธรรม และข้อคิด ในการดำเนินชีวิต และขออนุโมทนาบุญ กับทุกท่านที่มีส่วนร่วม ในการจัดทำคลิบนี้ และรับชมคลิบนี้ สาธุครับ
ขอขอบคุณที่มา ..http://www.watphramahajanaka.org/?page_id=4783
ความรักนั้น เป็นต้นเหตุแห่งความทุกข์ เป็นที่มาของความผิดหวัง เมื่อไม่ได้บุคคล อันเป็นที่รักมาครอง เป็นที่มาของความคร่ำครวญ เมื่อพลัดพราก จากบุคคลอันเป็นที่รัก เป็นที่มา ของความอึดอัด เมื่อได้อยู่ร่วมกับ คนที่เข้ากับเราไม่ได้เต็มร้อย วันนี้ผมจึงเอาคติธรรม และข้อคิด จากครูบาอาจารย์ มาให้รับชม เผื่อจะเป็นประโยชน์ และเป็นข้อคิดสอนใจ สำหรับคนที่มีความรัก เพราะการสูญเสียนั้น เป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักร ไม่มีอะไรที่จะอยู่กับเราได้ตลอดไป ซึ่งธรรมชาตินั้น จะบังคับให้เราทิ้งทุกคน แม้ว่าเรา จะเต็มใจ หรือไม่เต็มใจก็ตาม เรามาดูกันครับว่า ข้อคิดสอนใจ ในเรื่องของความรัก ที่ไว้เตือนสติตัวเรานั้น จะมีอะไรบ้าง ไปชมกันเลยครับ
๑. เราควรสร้างความเชื่อมั่น ให้เกิดขึ้นในใจว่า เขาก็รักเรามาก เหมือนอย่างที่เรา ก็รักเขามากเช่นกันเขาคงจะมีเหตุผล ที่เขาจะต้องทิ้งเราไป
๒. จงอย่าพยายาม จ้องจับผิด หรือหาเรื่อง ในสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ เพราะคนเรา ก็อาจจะมี ทำผิดกันได้ทั้งนั้น ไม่มีใคร ที่ไม่เคยทำผิด ๓. ยอมรับความจริงว่า ความเบื่อหน่าย ความเหนื่อย คลายรัก ความเย็นชา หรือไม่แคร์เท่าที่ควร ก็อาจจะเกิดขึ้นได้เสมอ กับทุกๆ คน
๔. จงควบคุม ความรู้สึกของเรา ให้อยู่ในอาการปกติ อย่าให้ต้องเสียใจมาก อย่าได้ไปคิดมาก หรือ อย่าหวาดระแวงมากเกินไป และอย่าได้น้อยอกน้อยใจ ในโชคชะตาวาสนา ในเรื่องความรักให้มาก เราควรปล่อยๆ มันบ้าง อย่าจริงจัง มันมากจนเกินไป
๕. เราควรทำใจยอมรับ ความจริงที่ว่า เมื่อเวลา แห่งการเลิกรามาถึง อะไรก็หยุดไม่ได้ ห้ามไม่ได้ เหตุเพียงเล็กน้อย ก็เป็นจะเหตุใหญ่ และเหตุโตได้
๖. เมื่อเวลา แห่งการสูญเสียมาถึง เราก็จงอดทน และข่มใจไว้ กาลเวลานั้น อาจจะช่วยเยียวยาเราได้ ควรคิดแต่สิ่งที่ดีไว้ เช่น ไม่ใช่เราคนเดียว ที่ต้องมาเจอแบบนี้ คงจะมีหลายคน ที่เขาต้องเจอเรื่องนี้เช่นกัน
๗. จงสวดมนต์ นั่งสมาธิ เอาลมหายใจ เข้าออกเป็นเพื่อน หมั่นทำบุญ ปล่อยนกปล่อยปลา ให้อาหารสัตว์ หมั่นทำความดี ต่อสังคม ไปเยี่ยม ไปกราบผู้มีพระคุณ และระลึกถึงความดี ที่เขามีต่อเราให้มาก
๘. จงกล่าวคำว่าขอบคุณ และขอโทษ เมื่อเราคิดถึงเขาทุกครั้ง เพราะเขาคือ คนที่ดีที่สุดสำหรับเรา เขากำลังให้ปัญญาเรา เขากำลังสอนเราอยู่ จงสวดมนต์ภาวนา ให้เขาเสมอ เพื่อให้เขาและเรา อย่าได้มีเวรมีกรรม ต่อกันอีกในชาติต่อไป
๙. หากเรา จำเป็นที่จะต้องร้องไห้ ก็จงร้องไห้ อย่าคิดตำหนิตัวเองว่า ตนเป็นคนที่อ่อนแอ เป็นเด็ดขาด ให้ถือว่า เป็นเรื่องธรรมดา สำหรับทุกคน ที่ยังไม่บรรลุธรรม
๑๐. จงอย่าคิด ให้ร้ายแก่เขา และตัวเราเอง จงทำใจยอมรับ กับความจริงว่า ทุกสิ่งไม่มีอะไรแน่นอน ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ
๑๑. จงอย่าพยายามมองว่า ใครเป็นคนถูก หรือเป็นคนผิด ซึ่งไม่มีใครผิดทั้งสิ้น มันเป็นเรื่องกรรม เรื่องเหตุปัจจัย จงพยายาม ให้คะแนนเท่าๆ กัน
๑๒. จงดูความรู้สึก ที่เกิดขึ้นในใจลึกๆ ว่า ขณะนี้เรารู้สึกอย่างไร น้อยใจ แค้นใจ เสียใจ หรืออาลัยอาวรณ์ ดูให้ชัดๆ ดูอยู่เฉยๆ ดูมันไปเรื่อยๆ ดูแต่ละเรื่อง ดูให้เห็นความเคลื่อนไหว ความเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ จากเรื่องหนึ่ง ไปอีกเรื่องหนึ่ง ดูความเกิดดับ ความไม่มั่นคงของมัน ดูเข้าไปลึกๆ ให้เห็นตัวเรา ของเรา
๑๓. ข้อคิดที่จะช่วยให้เรา สบายใจได้ดีที่สุด นั้นก็คือ ควรคิดว่า เราคงหมดบุญต่อกันแล้ว เราคงทำบุญ มาด้วยกันแค่นี้ ถ้าชาติหน้าถ้ามีจริง อย่าได้เจอกันอีกเลย พอแล้ว สำหรับเรื่องความรัก มันก็แค่นั้นเอง จงไปหาสิ่งอื่น ที่มันมีประโยชน์มากกว่านี้ทำ จะดีกว่า
ในชีวิตของมนุษย์เรานั้น มีบทเรียนอยู่สองบทเรียน คือ หนึ่ง บทเรียนที่ยาก และสอง บทเรียนที่ง่าย
บทเรียนที่ง่าย ก็คือ ทำอะไรก็สมหวังไปเสียทุกอย่าง แต่พอสมหวังไปเสียทุกอย่าง มนุษย์ก็มักจะหลงตัวเอง พอหลงตัวเอง นั่นก็คือ ต้นทางของความผิดพลาด
ส่วนบทเรียนที่ยาก มักจะช่วยขัดเกลา ฝึกเราให้เข้มแข็ง เหมือนคนบางคน ที่เกิดมายากจน จึงเรียนรู้ที่จะต่อสู้ และเมื่อพยายามต่อสู้ ในที่สุดก็ประสบความสำเร็จ กลายเป็นคนมั่งคั่ง พรั่งพร้อมได้ คนจำนวนมาก ที่สามารถสร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมาได้ แล้วกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ของโลกนั้น เพราะเขาไม่ปฎิเสธบทเรียนที่ยาก แต่กลับถือว่า เป็นบทเรียน ที่เปรียบเสมือนหินลองทอง หรือเปรียบเสมือนหินลับมีด หรือเปรียบเสมือนกระดาษทราย ที่ทำหน้าที่ขัดสีฉวีวรรณ ให้ชีวิตของเราผุดผ่อง แวววาว ทอประกาย เจิดจรัสงดงามยิ่งขึ้น ฉะนั้นการที่เราล้มเหลว ในเรื่องของความรัก ในเรื่องชีวิตคู่ ขอให้ถือว่าความล้มเหลวนั้น คือบทเรียนแสนยาก ที่เป็นบันไดขั้นหนึ่ง ซึ่งเราต้องก้าวข้ามไป พอเรา ก้าวข้ามไปได้ ชีวิตของเรา ก็จะมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ขออนุโมทนาบุญ และกราบขอบพระคุณครูบาอาจารย์ ทุกท่าน ที่ให้คติธรรม และข้อคิด ในการดำเนินชีวิต และขออนุโมทนาบุญ กับทุกท่านที่มีส่วนร่วม ในการจัดทำคลิบนี้ และรับชมคลิบนี้ สาธุครับ
ขอขอบคุณที่มา ..http://www.watphramahajanaka.org/?page_id=4783
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น