ความบังเอิญ ไม่มีในโลก
สวัสดีคุณผู้ชม คลิบนี้มีคติธรรมและข้อคิด
เรื่องของความบังเอิญ ที่พระพุทธองค์ทรงสอนว่า
ไม่มีอยู่ในโลก
หลายๆ ท่าน อาจจะคิดว่า การที่เราได้มาพบเจอกันนั้น เป็นเรื่องบังเอิญ แต่พระพุทธองค์ทรงสอนว่า ความบังเอิญนั้น ไม่มีอยู่ในโลก เมื่อความบังเอิญไม่มีอยู่ในโลกแล้ว เหตุใดเราจึงได้มาพบกัน คลิบนี้ผมจึงเอาคติธรรม เรื่องของความบังเอิญ มาให้รับชม เผื่อจะเป็นโยชน์ และเป็นข้อคิดให้กับทุกท่าน เรามาดูกันว่า เหตุใดความบังเอิญ จึงไม่มีอยู่ในโลก
๑.ไม่ว่าเรา จะได้พบเจอใคร เขาเหล่านั้น คือคนที่เรา จะต้องได้พบเจอ ไม่มีใครเข้ามาในชีวิตเรา ด้วยเหตุบังเอิญ
๒.ไม่ว่าจะเกิดเรื่องราวใดๆ ขึ้น ในชีวิตเรา มันเป็นเรื่องที่จะต้องเกิด ไม่ว่าเรื่องนั้น จะดีหรือร้าย ไม่มีเรื่องใดที่บังเอิญ เพราะเราก็เคยทำอย่างนี้ กับเขามาก่อน เมื่ออดีตชาติ
๓.เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น เกิดเมื่อไหร่ ที่ไหน เวลาใด นั่นคือ เวลาที่เหมาะสม ที่สุดแล้ว ไม่มีอะไร ที่ไม่ควรเกิด เพราะมันต้องเกิด ต่อให้เราเตรียมตัว หรือไม่ได้เตรียมตัว เมื่อปัจจัยถึงพร้อม สิ่งเหล่านั้น ก็จะเกิดขึ้นในทันที
๔.เมื่อปัจจัยจบ ต้องยอมรับว่าจบ อย่าเหนี่ยวรั้ง อย่าอาลัยอาวรณ์ ขอให้รู้ว่า เมื่อสุดมือจะคว้า ก็ให้ปล่อยมันไป กล้าเผชิญในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะมีเรื่องดีๆ กำลังรอเราอยู่ข้างหน้าเสมอ
๕.ทำความดีในปัจจุบัน ให้มากที่สุด โดยไม่สนใจว่า เราเคยทำกรรมอะไร ในอดีตมาบ้าง เพราะคิดไป ก็เปล่าประโยชน์ เราทำอะไร กับกรรมเก่าไม่ได้แล้ว แต่ผู้มีปัญญาเท่านั้น จะรู้ว่ากรรมใหม่ดีๆ มีอะไร ที่ยังไม่ได้ทำ และควรทำทันที
๖.หมั่นทำกรรมดี ในปัจจุบันนั่น สำคัญที่สุด ไม่มีความบังเอิญ ในพุทธศาสนา ทุกอย่างเกิดจากกรรม เกิดจากเหตุ และปัจจัย
กรรมในปัจจุบัน ทำให้เกิดอดีต อนาคต
กรรมในปัจจุบัน เกิดจากเหตุในอดีต
กรรมในปัจจุบัน เป็นเหตุให้เกิดอนาคต
ทำกรรมดี ย่อมได้รับผลดี ทำกรรมไม่ดี ย่อมได้รับผลไม่ดี ทุกสิ่งเกิดจากเหตุ และดับไป เพราะเหตุนั้นดับ ไม่มีความบังเอิญ ในพุทธศาสนา
๗.การนินทาว่าร้าย เป็นเรื่องของเขา การให้อภัย เป็นเรื่องของเรา การชอบพูดถึง ความไม่ดีของเขา คือความไม่ดีของเรา การชอบพูดถึง ความดีของเขา คือความดี ของเรา
วันเวลา ในโลกนี้ มีอยู่แค่ ๓ วัน คือ
เมื่อวาน ซึ่งเราได้ใช้มันแล้ว และไม่หวนกลับมา อย่าไปอาลัยอาวรณ์ กับอดีต
วันนี้ เรากำลังใช้มันอยู่ และใช้ได้แค่ครั้งเดียว จงใช้มันให้คุ้มค่าที่สุด อยู่กับปัจจุบัน
พรุ่งนี้ ยังไม่รู้เลยว่า จะได้ใช้หรือเปล่า อย่าไปคาดหวัง กับอนาคต
ขออนุโมทนาบุญ และกราบขอบพระคุณครูบาอาจารย์ ทุกท่าน ที่ให้คติธรรม และข้อคิด ในการดำเนินชีวิต และขออนุโมทนาบุญ กับทุกท่าน ที่มีส่วนร่วม ในการจัดทำคลิบนี้ และรับชมคลิบนี้ สาธุครับ
หลายๆ ท่าน อาจจะคิดว่า การที่เราได้มาพบเจอกันนั้น เป็นเรื่องบังเอิญ แต่พระพุทธองค์ทรงสอนว่า ความบังเอิญนั้น ไม่มีอยู่ในโลก เมื่อความบังเอิญไม่มีอยู่ในโลกแล้ว เหตุใดเราจึงได้มาพบกัน คลิบนี้ผมจึงเอาคติธรรม เรื่องของความบังเอิญ มาให้รับชม เผื่อจะเป็นโยชน์ และเป็นข้อคิดให้กับทุกท่าน เรามาดูกันว่า เหตุใดความบังเอิญ จึงไม่มีอยู่ในโลก
๑.ไม่ว่าเรา จะได้พบเจอใคร เขาเหล่านั้น คือคนที่เรา จะต้องได้พบเจอ ไม่มีใครเข้ามาในชีวิตเรา ด้วยเหตุบังเอิญ
๒.ไม่ว่าจะเกิดเรื่องราวใดๆ ขึ้น ในชีวิตเรา มันเป็นเรื่องที่จะต้องเกิด ไม่ว่าเรื่องนั้น จะดีหรือร้าย ไม่มีเรื่องใดที่บังเอิญ เพราะเราก็เคยทำอย่างนี้ กับเขามาก่อน เมื่ออดีตชาติ
๓.เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น เกิดเมื่อไหร่ ที่ไหน เวลาใด นั่นคือ เวลาที่เหมาะสม ที่สุดแล้ว ไม่มีอะไร ที่ไม่ควรเกิด เพราะมันต้องเกิด ต่อให้เราเตรียมตัว หรือไม่ได้เตรียมตัว เมื่อปัจจัยถึงพร้อม สิ่งเหล่านั้น ก็จะเกิดขึ้นในทันที
๔.เมื่อปัจจัยจบ ต้องยอมรับว่าจบ อย่าเหนี่ยวรั้ง อย่าอาลัยอาวรณ์ ขอให้รู้ว่า เมื่อสุดมือจะคว้า ก็ให้ปล่อยมันไป กล้าเผชิญในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะมีเรื่องดีๆ กำลังรอเราอยู่ข้างหน้าเสมอ
๕.ทำความดีในปัจจุบัน ให้มากที่สุด โดยไม่สนใจว่า เราเคยทำกรรมอะไร ในอดีตมาบ้าง เพราะคิดไป ก็เปล่าประโยชน์ เราทำอะไร กับกรรมเก่าไม่ได้แล้ว แต่ผู้มีปัญญาเท่านั้น จะรู้ว่ากรรมใหม่ดีๆ มีอะไร ที่ยังไม่ได้ทำ และควรทำทันที
๖.หมั่นทำกรรมดี ในปัจจุบันนั่น สำคัญที่สุด ไม่มีความบังเอิญ ในพุทธศาสนา ทุกอย่างเกิดจากกรรม เกิดจากเหตุ และปัจจัย
กรรมในปัจจุบัน ทำให้เกิดอดีต อนาคต
กรรมในปัจจุบัน เกิดจากเหตุในอดีต
กรรมในปัจจุบัน เป็นเหตุให้เกิดอนาคต
ทำกรรมดี ย่อมได้รับผลดี ทำกรรมไม่ดี ย่อมได้รับผลไม่ดี ทุกสิ่งเกิดจากเหตุ และดับไป เพราะเหตุนั้นดับ ไม่มีความบังเอิญ ในพุทธศาสนา
๗.การนินทาว่าร้าย เป็นเรื่องของเขา การให้อภัย เป็นเรื่องของเรา การชอบพูดถึง ความไม่ดีของเขา คือความไม่ดีของเรา การชอบพูดถึง ความดีของเขา คือความดี ของเรา
วันเวลา ในโลกนี้ มีอยู่แค่ ๓ วัน คือ
เมื่อวาน ซึ่งเราได้ใช้มันแล้ว และไม่หวนกลับมา อย่าไปอาลัยอาวรณ์ กับอดีต
วันนี้ เรากำลังใช้มันอยู่ และใช้ได้แค่ครั้งเดียว จงใช้มันให้คุ้มค่าที่สุด อยู่กับปัจจุบัน
พรุ่งนี้ ยังไม่รู้เลยว่า จะได้ใช้หรือเปล่า อย่าไปคาดหวัง กับอนาคต
ขออนุโมทนาบุญ และกราบขอบพระคุณครูบาอาจารย์ ทุกท่าน ที่ให้คติธรรม และข้อคิด ในการดำเนินชีวิต และขออนุโมทนาบุญ กับทุกท่าน ที่มีส่วนร่วม ในการจัดทำคลิบนี้ และรับชมคลิบนี้ สาธุครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น