เริ่มต้นชีวิตใหม่ ด้วยใจที่ตื่นรู้ อย่างมีสติและมีปัญญา
สวัสดีครับ วันนี้ผมมีคติธรรม และข้อคิด
เรื่องของการ เริ่มต้นชีวิตใหม่ ด้วยใจที่ตื่นรู้ มาฝากครับ
หลายท่านๆ ที่กำลังเริ่มต้นชีวิตใหม่ ในหลายๆ ด้าน ซึ่ง “จิตใจ” นั้น เป็นสิ่งสำคัญ ที่เราจะต้องปรับ และพัฒนาควบคู่ไปกับ การเริ่มต้นชีวิตใหม่ หลายๆ สถานที่ จัดให้มี การปฏิบัติธรรม และสวดมนต์ข้ามปี เพื่อเสริมสร้าง ให้เกิดความสุขสวัสดี ในการต้อนรับปีใหม่ ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดี ที่เราจะได้ น้อมนำเอาธรรมะ มาใช้ขัดเกลาตนเอง ให้ละจากกิเลส ละจากความทุกข์ ที่ทำให้ตัวเราได้สงบ ได้มีการหยุดคิด ได้อยู่กับตนเอง เพื่อสำรวจ ทบทวน ถึงการดำรงชีวิต ที่ผ่านมา ว่าชีวิตของเรานั้น เดินไปถึงเป้าหมาย ตามที่เราปรารถนา และตั้งใจไว้หรือไม่ คลิบนี้ผมจึงเอาคติธรรม และข้อคิด จากครูบาอาจารย์ มาให้รับชม เผื่อจะเป็นประโยชน์และข้อคิด ในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ซึ่งหากชีวิตของเรา ยังไปไม่ถึงเป้าหมาย ที่เราตั้งไว้ การหันมาทบทวนว่า มีสิ่งใดที่ทำไปแล้ว ส่งผลดี ก็ควรยึดถือทำต่อ และทำให้ดียิ่งขึ้นไปอีก หรือสิ่งใด ที่ทำให้เรา กำลังจมอยู่กับกองทุกข์ ความเครียด ซึ่งเป็นวังวนของอารมณ์ ที่ทำให้เรา ไม่ได้ขยับความคิด และการกระทำไปทางไหน
การหันมาทบทวน สำรวจตัวเราเอง ด้วยการน้อมนำ เอาธรรมะมาใช้ จะทำให้เรารู้ว่า สิ่งใดที่เรากำลังทำอยู่ โดยไม่ส่งผลดี เราก็ต้องหา วิธีปรับเปลี่ยนปรับปรุง ให้ดีขึ้นกว่าเดิม “ธรรมะ” จึงเป็นสิ่งที่ ช่วยให้เกิด “สติ” และรู้ด้วย “ปัญญา” ซึ่งหลักธรรมคำสอน และหลักปฏิบัติต่างๆ ของธรรมะ จะช่วยเป็นเครื่องประคับประคอง ให้เราสามารถดำเนินชีวิต ไปในทางที่ถูกที่ควร ได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้ง ยังเป็นเกราะป้องกันชีวิตจากปัญหา จากกิเลส และจากความทุกข์ อันเป็นอุปสรรค ในการฝึกฝนพัฒนาตนเอง ด้วยความมีสติ และใจตื่นรู้ และการศึกษา หลักธรรมคำสอน หรือการปฏิบัติธรรมนั้น นอกจากปฏิบัติที่วัด หรือสถานปฏิบัติธรรมแล้ว เราก็ยังสามารถ ศึกษาและปฏิบัติได้ ในทุกที่ทุกขณะ ตามที่ใจเราคิด ด้วยความมุ่งมั่น เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลง และเพื่อการเริ่มต้นชีวิตใหม่
หลักธรรมคำสอน ในทางพระพุทธศาสนา ที่เป็นหลักพื้นฐาน ที่เราสามารถ นำมาปฏิบัติ ช่วยขัดเกลาจิตใจ อันจะนำพาให้ ผู้ที่ยึดถือปฏิบัติ นำไปปรับใช้ กับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ในทุกๆ ด้าน หรือในการดำรงชีวิต ประจำวัน เพื่อให้เกิดการพัฒนาจิตใจ และพัฒนาตนเอง ไปสู่ความสำเร็จ ตามที่ตั้งใจไว้ ซึ่งทำได้ไม่ยาก นั้นก็คือ “อิทธิบาท๔” อันหมายถึง หลักพื้นฐานแห่งความสำเร็จ ซึ่ง ท่าน ว.วชิรเมธี ได้นิยามไว้มีความหมาย สำหรับการนำไปปฏิบัติอย่างสั้นๆ ว่า “มีใจรัก พากเพียรทำ จดจำจ่อจิต วินิจ วิจัย” ซึ่งประกอบด้วยหลัก ๔ ประการ คือ
๑. ฉันทะ ความพอใจ คือ รักในสิ่งที่ตนเองทำอยู่ หลายๆ ท่าน อาจเบื่อหน่าย กับความซ้ำซากจำเจ กับเรื่องของการทำงาน เรื่องของการเรียน หรือเรื่องอื่นๆ ที่ผ่านมา จึงขอให้เริ่มต้น ปรับปรุงที่จิตใจ ในการเริ่มต้นใหม่นี้ ด้วยความมีใจรัก ในสิ่งที่ทำ จงคิดบวก คิดในเชิงสร้างสรรค์ “พอใจในสิ่งที่มี ยินดีกับสิ่งที่ทำ” เมื่อมีใจรัก ในสิ่งที่ทำแล้ว อะไรๆ ก็จะไม่ยาก สำหรับการพัฒนา สู่ความสำเร็จในขั้นต่อไป
๒. วิริยะ ความเพียร คือ ขยันหมั่นเพียรในสิ่งที่ทำ เพราะความขยัน จะทำให้เรา ไม่รู้สึกเหนื่อย ในสิ่งที่ทำ ไม่ว่าสิ่งนั้น จะหนักหนาแค่ไหน จงทำด้วยใจที่อดทน ไม่ย่อท้อ เมื่อพบเจอปัญหา และอุปสรรค “ขยันหมั่นเพียรทำ จะเกิดทักษะ จนเกิดเป็นความชำนาญ และจะกลายเป็น ประสบการณ์ให้แก่เราต่อไป”
๓. จิตตะ ความคิด คือ มีใจที่จดจ่อ ตั้งใจอยู่กับสิ่งที่ทำ ทำในสิ่งนั้น ด้วยความฝักใฝ่ มุ่งมั่น นอกจากนี้ ยังต้องหมั่นฝึกฝน ความคิด ด้วยความมีสติ รู้ตัวอยู่กับปัจจุบัน ไม่นำพาความคิด ให้เกิดเป็นอคติ เมื่อพบปัญหา มีความตั้งใจจริง คิดในทางที่ดี ไม่ปล่อยใจให้เลื่อนลอย เหมือนทำให้ผ่าน ไปแค่วันๆ หนึ่งเท่านั้น “อย่ากังวล ไปกับวันวาน และอย่าข้ามผ่าน ไปกังวลกับวันพรุ่งนี้ จงตั้งใจทำวันนี้ ให้ดีที่สุด”
๔. วิมังสา ความไตร่ตรอง คือ หมั่นใช้สติไตร่ตรอง วิเคราะห์และใช้ปัญญา คิดพิจารณา ตรวจสอบในสิ่งที่ทำ อยู่เสมอว่า มีทิศทางไปในทางใด มีสิ่งใด ที่ทำมาถูกต้องแล้ว และมีทิศทาง ดีขึ้นเรื่อยๆ หรือมีสิ่งใด ที่ต้องแก้ไขปรับปรุง หากพบว่า เกิดความผิดพลาด ขึ้นมาแล้ว การยอมรับความจริง ในความผิดพลาดนั้น ก็เป็นสิ่งสำคัญ ที่ควรต้องมี “หากเรายอมรับ ความจริงได้เมื่อไหร่ การแก้ไข และพัฒนาปรับปรุง อย่างสร้างสรรค์ ย่อมเกิดขึ้น”
เมื่อเราสามารถปรับตัว ปรับจิตใจ และปฏิบัติ ตามหลักอิทธิบาท ๔ หรือหลักพื้นฐาน แห่งความสำเร็จได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มต้นใหม่ หรือสานต่อในการทำสิ่งใด การดำเนินการด้านใด หรือการเดินไปสู่ เป้าหมายที่ตั้งไว้ ในชีวิตก็ดี ก็จะสามารถสำเร็จ ลุล่วงไปได้ด้วยดี ด้วยการพัฒนาจิตใจ และการกระทำ ที่ดำเนินไป ในทางที่ถูก ที่ควร และดีขึ้นอยู่เสมอ จึงเรียกได้ว่า เป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ด้วยใจที่ตื่นรู้ เพื่อเป็นนิมิตรหมายที่ดี และเป็นการต้อนรับปีใหม่อย่างแท้จริง
ขออนุโมทนาบุญ และกราบขอบพระคุณครูบาอาจารย์ ทุกท่าน ที่ให้คติธรรม และข้อคิด ในการดำเนินชีวิต และขออนุโมทนาบุญ กับทุกท่านที่มีส่วนร่วม ในการจัดทำคลิบนี้ และรับชมคลิบนี้ สาธุครับ
ขอบคุณที่มา http://purifilm.blogspot.com/2017/12/e.html
หลายท่านๆ ที่กำลังเริ่มต้นชีวิตใหม่ ในหลายๆ ด้าน ซึ่ง “จิตใจ” นั้น เป็นสิ่งสำคัญ ที่เราจะต้องปรับ และพัฒนาควบคู่ไปกับ การเริ่มต้นชีวิตใหม่ หลายๆ สถานที่ จัดให้มี การปฏิบัติธรรม และสวดมนต์ข้ามปี เพื่อเสริมสร้าง ให้เกิดความสุขสวัสดี ในการต้อนรับปีใหม่ ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดี ที่เราจะได้ น้อมนำเอาธรรมะ มาใช้ขัดเกลาตนเอง ให้ละจากกิเลส ละจากความทุกข์ ที่ทำให้ตัวเราได้สงบ ได้มีการหยุดคิด ได้อยู่กับตนเอง เพื่อสำรวจ ทบทวน ถึงการดำรงชีวิต ที่ผ่านมา ว่าชีวิตของเรานั้น เดินไปถึงเป้าหมาย ตามที่เราปรารถนา และตั้งใจไว้หรือไม่ คลิบนี้ผมจึงเอาคติธรรม และข้อคิด จากครูบาอาจารย์ มาให้รับชม เผื่อจะเป็นประโยชน์และข้อคิด ในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ซึ่งหากชีวิตของเรา ยังไปไม่ถึงเป้าหมาย ที่เราตั้งไว้ การหันมาทบทวนว่า มีสิ่งใดที่ทำไปแล้ว ส่งผลดี ก็ควรยึดถือทำต่อ และทำให้ดียิ่งขึ้นไปอีก หรือสิ่งใด ที่ทำให้เรา กำลังจมอยู่กับกองทุกข์ ความเครียด ซึ่งเป็นวังวนของอารมณ์ ที่ทำให้เรา ไม่ได้ขยับความคิด และการกระทำไปทางไหน
การหันมาทบทวน สำรวจตัวเราเอง ด้วยการน้อมนำ เอาธรรมะมาใช้ จะทำให้เรารู้ว่า สิ่งใดที่เรากำลังทำอยู่ โดยไม่ส่งผลดี เราก็ต้องหา วิธีปรับเปลี่ยนปรับปรุง ให้ดีขึ้นกว่าเดิม “ธรรมะ” จึงเป็นสิ่งที่ ช่วยให้เกิด “สติ” และรู้ด้วย “ปัญญา” ซึ่งหลักธรรมคำสอน และหลักปฏิบัติต่างๆ ของธรรมะ จะช่วยเป็นเครื่องประคับประคอง ให้เราสามารถดำเนินชีวิต ไปในทางที่ถูกที่ควร ได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้ง ยังเป็นเกราะป้องกันชีวิตจากปัญหา จากกิเลส และจากความทุกข์ อันเป็นอุปสรรค ในการฝึกฝนพัฒนาตนเอง ด้วยความมีสติ และใจตื่นรู้ และการศึกษา หลักธรรมคำสอน หรือการปฏิบัติธรรมนั้น นอกจากปฏิบัติที่วัด หรือสถานปฏิบัติธรรมแล้ว เราก็ยังสามารถ ศึกษาและปฏิบัติได้ ในทุกที่ทุกขณะ ตามที่ใจเราคิด ด้วยความมุ่งมั่น เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลง และเพื่อการเริ่มต้นชีวิตใหม่
หลักธรรมคำสอน ในทางพระพุทธศาสนา ที่เป็นหลักพื้นฐาน ที่เราสามารถ นำมาปฏิบัติ ช่วยขัดเกลาจิตใจ อันจะนำพาให้ ผู้ที่ยึดถือปฏิบัติ นำไปปรับใช้ กับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ในทุกๆ ด้าน หรือในการดำรงชีวิต ประจำวัน เพื่อให้เกิดการพัฒนาจิตใจ และพัฒนาตนเอง ไปสู่ความสำเร็จ ตามที่ตั้งใจไว้ ซึ่งทำได้ไม่ยาก นั้นก็คือ “อิทธิบาท๔” อันหมายถึง หลักพื้นฐานแห่งความสำเร็จ ซึ่ง ท่าน ว.วชิรเมธี ได้นิยามไว้มีความหมาย สำหรับการนำไปปฏิบัติอย่างสั้นๆ ว่า “มีใจรัก พากเพียรทำ จดจำจ่อจิต วินิจ วิจัย” ซึ่งประกอบด้วยหลัก ๔ ประการ คือ
๑. ฉันทะ ความพอใจ คือ รักในสิ่งที่ตนเองทำอยู่ หลายๆ ท่าน อาจเบื่อหน่าย กับความซ้ำซากจำเจ กับเรื่องของการทำงาน เรื่องของการเรียน หรือเรื่องอื่นๆ ที่ผ่านมา จึงขอให้เริ่มต้น ปรับปรุงที่จิตใจ ในการเริ่มต้นใหม่นี้ ด้วยความมีใจรัก ในสิ่งที่ทำ จงคิดบวก คิดในเชิงสร้างสรรค์ “พอใจในสิ่งที่มี ยินดีกับสิ่งที่ทำ” เมื่อมีใจรัก ในสิ่งที่ทำแล้ว อะไรๆ ก็จะไม่ยาก สำหรับการพัฒนา สู่ความสำเร็จในขั้นต่อไป
๒. วิริยะ ความเพียร คือ ขยันหมั่นเพียรในสิ่งที่ทำ เพราะความขยัน จะทำให้เรา ไม่รู้สึกเหนื่อย ในสิ่งที่ทำ ไม่ว่าสิ่งนั้น จะหนักหนาแค่ไหน จงทำด้วยใจที่อดทน ไม่ย่อท้อ เมื่อพบเจอปัญหา และอุปสรรค “ขยันหมั่นเพียรทำ จะเกิดทักษะ จนเกิดเป็นความชำนาญ และจะกลายเป็น ประสบการณ์ให้แก่เราต่อไป”
๓. จิตตะ ความคิด คือ มีใจที่จดจ่อ ตั้งใจอยู่กับสิ่งที่ทำ ทำในสิ่งนั้น ด้วยความฝักใฝ่ มุ่งมั่น นอกจากนี้ ยังต้องหมั่นฝึกฝน ความคิด ด้วยความมีสติ รู้ตัวอยู่กับปัจจุบัน ไม่นำพาความคิด ให้เกิดเป็นอคติ เมื่อพบปัญหา มีความตั้งใจจริง คิดในทางที่ดี ไม่ปล่อยใจให้เลื่อนลอย เหมือนทำให้ผ่าน ไปแค่วันๆ หนึ่งเท่านั้น “อย่ากังวล ไปกับวันวาน และอย่าข้ามผ่าน ไปกังวลกับวันพรุ่งนี้ จงตั้งใจทำวันนี้ ให้ดีที่สุด”
๔. วิมังสา ความไตร่ตรอง คือ หมั่นใช้สติไตร่ตรอง วิเคราะห์และใช้ปัญญา คิดพิจารณา ตรวจสอบในสิ่งที่ทำ อยู่เสมอว่า มีทิศทางไปในทางใด มีสิ่งใด ที่ทำมาถูกต้องแล้ว และมีทิศทาง ดีขึ้นเรื่อยๆ หรือมีสิ่งใด ที่ต้องแก้ไขปรับปรุง หากพบว่า เกิดความผิดพลาด ขึ้นมาแล้ว การยอมรับความจริง ในความผิดพลาดนั้น ก็เป็นสิ่งสำคัญ ที่ควรต้องมี “หากเรายอมรับ ความจริงได้เมื่อไหร่ การแก้ไข และพัฒนาปรับปรุง อย่างสร้างสรรค์ ย่อมเกิดขึ้น”
เมื่อเราสามารถปรับตัว ปรับจิตใจ และปฏิบัติ ตามหลักอิทธิบาท ๔ หรือหลักพื้นฐาน แห่งความสำเร็จได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มต้นใหม่ หรือสานต่อในการทำสิ่งใด การดำเนินการด้านใด หรือการเดินไปสู่ เป้าหมายที่ตั้งไว้ ในชีวิตก็ดี ก็จะสามารถสำเร็จ ลุล่วงไปได้ด้วยดี ด้วยการพัฒนาจิตใจ และการกระทำ ที่ดำเนินไป ในทางที่ถูก ที่ควร และดีขึ้นอยู่เสมอ จึงเรียกได้ว่า เป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ด้วยใจที่ตื่นรู้ เพื่อเป็นนิมิตรหมายที่ดี และเป็นการต้อนรับปีใหม่อย่างแท้จริง
ขออนุโมทนาบุญ และกราบขอบพระคุณครูบาอาจารย์ ทุกท่าน ที่ให้คติธรรม และข้อคิด ในการดำเนินชีวิต และขออนุโมทนาบุญ กับทุกท่านที่มีส่วนร่วม ในการจัดทำคลิบนี้ และรับชมคลิบนี้ สาธุครับ
ขอบคุณที่มา http://purifilm.blogspot.com/2017/12/e.html
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น