การช่วยเหลือผู้อื่น ได้รับอานิสงส์อะไร

สวัสดีครับคุณผู้ชม คลิบนี้ผมมีคติธรรมและข้อคิด เรื่องการช่วยเหลือผู้อื่น ว่าจะได้รับอานิสงส์อะไรบ้าง มาฝาก ครับ

การที่เราช่วยเหลือผู้อื่นนั้น เราจะได้อะไรบ้าง หรือส่งผลให้เรา ได้รับอานิสงส์อะไร คลิบนี้ผมจึงเอาคติธรรม และข้อคิดจากครูบาอาจารย์ มาให้รับชม เผื่อจะเป็นประโยชน์ และเป็นข้อคิด ให้กับทุกท่าน ในการใช้ชีวิต เพราะการช่วยเหลือผู้อื่นนั้น เป็นย่างก้าวแรก แห่งการที่จะเดินไปสู่ ทางพ้นทุกข์ การช่วยเหลือผู้อื่น หากว่าเรานั้น ไม่มีจิตเมตตา เราก็จะช่วยเหลือผู้อื่นไม่ได้เลย อานิสงส์บุญแห่งการช่วยเหลือผู้อื่น จึงส่งผลให้เรา ได้รับอานิสงส์บุญนั้น ในหลากหลายรูปแบบ อาทิเช่น การที่เราช่วยเหลือผู้อื่น จะปลูกฝังจิตเมตตา ในตัวของเรา ถอดถอนความยึดติด ในตัวตนของเรา ในตัวตนของสิ่งของ หรือข้าวของต่างๆ เป็นต้น



ครูบาอาจารย์ท่านได้ให้ข้อคิดเตือนสติว่า ในความเป็นจริง การที่เราได้ทำความชั่วไปแล้ว ความชั่วนั้น มันก็ยังคงเป็น ความชั่วอยู่เสมอ แต่หากว่าเราสร้างความดี ความดีนั้น ก็จะทำให้ความชั่วที่มีอยู่ ทำให้มันเย็นลง ดังเช่น ฟืนที่มันเปียกน้ำ เมื่อเรานำไปก่อไฟ มันก็ย่อมไม่ติด การที่เราคิดทำความดี เพื่อที่จะชดใช้ความชั่ว หรือลบล้างความชั่วนั้น ในความเป็นจริงแล้ว มันไม่ได้ลบล้างความชั่วไป เพียงแต่เรา ได้คิดดี ทำดี ความดีของเรา จึงไปหยุดการสร้างกรรมเพิ่ม และการหยุด การสร้างกรรมเพิ่มนั้น จึงทำให้ปัญหาที่เกิดขึ้นต่างๆ มีน้อยลงไป แทนที่ปัญหา มันจะยิ่งใหญ่ บานปลาย หรือใหญ่โต เกินกว่าที่จะแก้ไขได้ แต่ว่าเมื่อเราทำตนดีแล้ว เราจึงเมตตา และให้อภัย เราจึงขอรับกรรมนั้น ด้วยความยินดี ยินยอม กรรมที่ตีกลับมาหาเรา จึงไม่มีฟืน ที่จะไปช่วยให้ไฟนั้น ร้อนแรงมากเพิ่มขึ้น ไฟกองเล็กๆ ที่มันเกิดขึ้น ก็เพราะกรรมเก่า ที่เคยสร้างกรรมชั่ว คือ ความชั่วเดิมนั้น ยังคงติดอยู่ แต่อาจจะไม่มาก เราจึงสามารถดับกรรมชั่วนั้นได้ โดยไม่ให้มันบานปลาย

หากว่าเรา ไม่รู้จักการทำความดี ไม่ฝึกฝน ไม่สำนึกตนเอง เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น เราก็จะทำให้มันใหญ่โตขึ้นมา ปัญหาเรื่องเล็กๆ ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ ด้วยเพราะว่า เรานั้นไม่รู้จักอโหสิกรรม ไม่รู้จักปล่อยวาง กับปัญหาเหล่านั้น ไม่รู้จักขออโหสิกรรม หรือยินยอม ที่จะรับกรรมอันนั้น ด้วยจิตใจที่นอบน้อม มีแต่การเพ่งโทษ เดือดร้อน ว้าวุ่น และวุ่นวาย จึงทำให้ปัญหาเหล่านั้น ใหญ่โตขึ้นมา แทนที่กรรม เมื่อส่งผลมาแล้ว มันจะหมดไป กลับกลาย เป็นการสร้างกรรมชั่วขึ้นมา กลับกลาย เป็นการสร้างกรรมชั่ว ไม่รู้จบ ไม่รู้สิ้น กรรมชั่ว จึงยังคงอยู่กับบุคคลผู้นั้นไปเรื่อยๆ ไปตลอด

เพราะฉะนั้น การทำความดี ลบล้างกรรมชั่วไม่ได้ แต่ไม่ได้ทำให้ กรรมชั่วนั้นบานปลาย และไม่สร้างกรรมชั่วเพิ่มขึ้นอีก ยินดี ยินยอม ที่จะรับกรรมชั่วที่ตนเองก่อไว้ และส่งผลมา ด้วยความเต็มใจ จึงไม่ทำให้ก่อเกิดปัญหาใหญ่โตขึ้นมาได้ ปัญหาที่มีอยู่ เพียงน้อยนิดนั้น จึงดับลงไป ด้วยการทำดีของเรา มันจึงไม่สามารถ ทำให้เราเป็นทุกข์ ได้อีกต่อไป มันจึงไม่สามารถ ที่จะสานต่อกรรมชั่ว ได้อีกต่อไป การทำดีนั้น ดีเพราะหยุด หยุดการสร้างกรรมชั่ว เมื่อกรรมชั่วที่มีอยู่แต่เดิม เข้ามาให้เราได้ชดใช้ เราก็ก้มหน้าก้มตาใช้ไป โดยที่ไม่เดือดร้อน ไม่สร้างกรรมต่อ จึงเป็นปัญหา ที่เล็กน้อยสำหรับเรา จึงเป็นสิ่งที่เรา สามารถข้ามพ้นไปได้

การทำความดี ถึงแม้ว่ามัน จะลบล้างกรรมชั่วไม่ได้ แต่มันก็ช่วยเราได้ ช่วยให้เราหยุด ระงับกรรมชั่ว ด้วยการทำความดี แต่หากว่าเรา ไม่รู้จักทำความดี สร้างบุญ เพื่อหยุดบาป สร้างความดี เพื่อหยุดความชั่ว เมื่อเราไม่รู้จักทำเช่นนี้ ชีวิตของเรา ก็จะยังคงจมอยู่กับความชั่ว และหนี้บาปนั้นต่อไป ไม่รู้จักจบ ไม่รู้จักสิ้น คนที่หยุดทำชั่ว เขาก็จะได้รับความดี ในตอนต่อไป คนที่ยังไม่หยุดทำชั่ว ชีวิตของเขา ยังไงก็ยังคงต้องได้รับ แต่กรรมชั่วต่อไป เพราะฉันนั้น เราจงหมั่นสร้างความดี แม้ในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว เราจะเคยทำผิดพลาด พลาดพลั้งอะไรมาก็ตาม แต่เราจงปล่อยให้มันเป็นเรื่อง ที่ผ่านไปแล้ว และริเริ่มทำความดีในปัจจุบัน เพื่อความดีของเรานั้น จะได้หยุดความชั่วได้ และหนี้กรรม หนี้บาปต่างๆ จะได้ไม่ก่อเกิดแก่เราอีก หากว่าเรา เห็นแล้วว่ามันเป็นสิ่งที่เรา เคยก่อเคยทำมา จึงยินดีที่จะรับมัน พร้อมที่จะอโหสิกรรม รู้จักอภัย ให้คนที่มาตอบสนองกรรมแก่เรา กรรมชั่วนั้น เราไม่สานต่อ เราย่อมพ้นจากมัน ดีกว่าที่เรา จะไปจมอยู่ ทุกข์อยู่ ไม่ยอมหยุด และไม่ยอมทำความดี มีแต่โหวกเหวกโวยวาย มีแต่จะสร้างหนี้ เพิ่มขึ้นมา อย่างไม่รู้จบไม่รู้สิ้น การทำบุญ ล้างกรรมชั่วไม่ได้ แต่การทำบุญหยุดกรรมชั่วได้ เมื่อมันหยุดได้ วันหนึ่งมัน ก็จะหมดไป เพราะเราไม่ได้สร้างกรรมชั่วเพิ่มอีก ฟืนที่มันเปียกน้ำ มันไม่สามารถก่อไฟติด จิตใจที่ดีงาม และดีแล้ว ก็จะไม่เร่าร้อนอีก ถึงแม้ว่ามัน จะมีเพลิงไฟ ถึงแม้ว่าจะมีกรรมเก่าส่งผลมา การที่เราทำความดีในปัจจุบัน สร้างความดีต่อไป จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ

ทำดี เพื่อล้างบาปไม่ได้ แต่ทำดีเพื่อยุติบาปทั้งหลายได้ ฉะนั้นเราจงประพฤติดี ปฏิบัติดี ปรับเปลี่ยน ปรับปรุงตนใหม่ เริ่มต้นใหม่ ในความเป็นจริงแล้ว ถึงแม้ว่ามันลบล้างกันไม่ได้ แต่มันก็หยุดไม่ให้มันเพิ่มมากขึ้นได้ หยุดไม่ให้มันแผดเผา เร่าร้อนในตัวเราได้ จงทำความดี เพราะความดี เปรียบเสมือนน้ำที่เย็น น้ำที่เย็นนั้น แม้จะมีไฟที่ร้อนมากขนาดไหน แต่ถ้าเรามีน้ำเย็นคุ้มกายเราอยู่ ไฟนั้นก็จะทำอะไรเราไม่ได้ ในที่สุดมันก็ต้องดับไป จงทำความดี เพื่อชีวิตของเรา จะได้เจอกับสิ่งที่ดีต่อไป ทำความดี เพื่อหยุดการทำการชั่ว สร้างบุญ เพื่อหยุดการสร้างบาป เพื่อชีวิตของเรา จะได้พบกับความสุข ความเจริญ ครับ

ขออนุโมทนาบุญ และกราบขอบพระคุณครูบาอาจารย์ ทุกท่าน ที่ให้คติธรรม และข้อคิด ในการดำเนินชีวิต และขออนุโมทนาบุญ กับทุกท่าน ที่มีส่วนร่วม ในการจัดทำคลิบนี้ และรับชมคลิบนี้ สาธุครับ